จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ
จำนวนผู้เข้าชม: 192
ป.ป.ช. อำนาจเจริญ ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. เขต 3 ลงพื้นที่เฝ้าระวังโครงการบังคับน้ำห้วยสีโท ตำบลสร้างนกทา อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
วันที่ 21 ตุลาคม 2567 นางสาวปิยะฉัตร พ่วงพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานปราบปรามการทุจริต กลุ่มงานป้องกันการทุจริต และกลุ่มงานสืบสวนคดีทุจริต ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. เขต 3 ลงพื้นที่เฝ้าระวังโครงการบังคับน้ำห้วยสีโท ตำบลสร้างนกทา อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ณ โครงการชลประทานอำนาจเจริญ และพื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ หมู่ที่ 11 ตำบลสร้างนกทา อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ตามแนวทางในการขับเคลื่อนการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และรายงานกลับการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการขุดลอกแหล่งน้ำในระดับพื้นที่
จาการลงพื้นที่ นายกันตสิษฐ์ ธนพนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอำนาจเจริญ ชี้แจงว่า โครงการบังคับน้ำห้วยสีโท ตำบลสร้างนกทา อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ เกิดขึ้นโดยประชาชนในพื้นที่มีหนังสือร้องขอโครงการสร้างฝายน้ำล้น ผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลสร้างนกทา อำเภอเมืองอำนาจเจริญ เนื่องด้วยประชาชนประสบปัญหาในเรื่องการเกษตร และเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้งจำนวนน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมทั้งการสัญจรถนนก็ไม่สะดวก เพราะเป็นถนนในลำห้วย ชาวบ้านจึงได้ประชุมประชาคมเพื่อเสนอความต้องการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อมากรมชลประทานได้ทำหนังสือ MOU ระหว่าง กรมชลประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยโครงการดังกล่าวได้รับจัดสรรงบประมาณดำเนินการในปี พ.ศ. 2567 จำนวน 25,000,000 บาท (ยี่สิบห้าล้านบาทถ้วน)หน่วยงานเจ้าของโครงการคือ โครงการชลประทานอำนาจเจริญ (งานจัดทำเอง) ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 พฤษภาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568 ประกอบด้วย งานดิน งานอาคารระบายน้ำล้น งานระบบสูบน้ำและกระจายน้ำ งานประกอบอื่น ๆ ค่าอำนวยการ งานที่ไม่คิดค่าอำนวยการ และงานปลูกหญ้า ซึ่งปัจจุบันผลการดำเนินการก่อสร้าง คิดเป็นร้อยละ 81.55 เร็วกว่าแผนงาน คิดเป็นร้อยละ 1.55 และเบิกจ่ายงบประมาณ คิดเป็นร้อยละ 83.50
ในการนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ยังคงเฝ้าระวัง ติดตามโครงการดังกล่าวต่อไป จนกว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบจะดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาของโครงการ และใช้จ่ายงบประมาณและทรัพย์สินของราชการให้เกิดความคุ้มค่าต่อไป
