จากไชต์: สำนักสื่อสารองค์กร สำนักงาน ป.ป.ช.
จำนวนผู้เข้าชม: 100
สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. นำทัพสื่อมวลชนดูกระบวนการทำงานด้านคดีทรัพยากรในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นสังคมไทยไม่ทนต่อการทุจริต
สำนักสื่อสารองค์กร สำนักงาน ป.ป.ช. จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 22 - 23 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงแรมลาโค่ เขาใหญ่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สังคมได้รับทราบ การดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช และตระหนักในผลเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นจากการทุจริตคอร์รัปชัน เกี่ยวกับคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเพื่อเป็นการประสานความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ช. กับสื่อมวลชน ตลอดจนเป็นเครือข่ายช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่ยั่งยืน
โดยมีนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานและได้กล่าวว่า สถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชันของประเทศไทยยังมีแนวโน้มทวีความรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น จึงจำเป็นที่ต้องมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะงานสื่อสารกับสื่อมวลชน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม โดยให้มีความรู้การทุจริต และเสริมสร้างบทบาทในการขับเคลื่อนงานสื่อสารสร้างกระแสสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต รู้จักแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม ไม่ให้ ไม่รับสินบน
“สื่อมวลชน คือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานสื่อสารต่อต้านการทุจริต โดยการเผยแพร่ข่าวสารการทุจริตให้แก่คนในสังคมได้รับรู้ถึงผลเสียหายจากการทุจริตผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ ทางโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ทางสื่อออนไลน์ เป็นต้น รวมทั้งเข้ามาเป็นแนวร่วมในช่วยกันสอดส่อง เฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีการทุจริต หากพบเห็นการทุจริต และกล้ายืนหยัดต่อสู้กับการทุจริตเพื่อความถูกต้อง สามารถแจ้งเบาะแส โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ การร่ำรวยผิดปกติ ต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ผ่านศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือศูนย์ CDC ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ และยังมีการดำเนินการคุ้มครองช่วยเหลือพยานด้วย”
กิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีการอภิปรายในประเด็น “ความรู้เกี่ยวกับการทุจริตคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์การทุจริตในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3” โดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 3 นายมงคล ศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหาร สถาบันอิศรา และมีการนำลงพื้นที่ พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับกรณีศึกษาภารกิจงานปราบปรามการทุจริต ในประเด็น “การรังวัดแก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ โดยนำเอาที่ดินนอกหลักฐานซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ทำให้ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมและทับเขตป่าไม้ถาวร ป่าสงวนแห่งชาติ
