Contrast
Font
e4bfb22533c5b7abac1988b71ba27a1e.jpg

จับสดวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ อนุมัติให้จัดทำโครงการจัดพิธีกรรมทางศาสนาพิธีบวงสรวงเทพยดาผู้รักษาเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ณ วัดใหญ่ชัยมงคล พร้อมเงิน 80,000 บาท

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 247

07/09/2565

สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับแจ้งเบาะแส กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดระนครศรีอยุธยา ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ อนุมัติให้จัดทำโครงการจัดพิธีกรรมทางศาสนาพิธีบวงสรวงเทพยดาผู้รักษาเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ณ วัดใหญ่ชัยมงคล ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ซึ่งใช้เงินงบประมาณของสำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในจำนวน 80,000 บาท

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้ นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และนายพายัพ  คชพลายุกต์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษเข้าปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) วางแผนเพื่อทำการจับกุมวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์กล่าวคือ นางจุรีพร ขันตี ตำแหน่ง วัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ อนุมัติให้จัดทำโครงการจัดพิธีกรรมทางศาสนาพิธีบวงสรวงเทพยดาผู้รักษาเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ณ วัดใหญ่ชัยมงคล ในวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๕ ซึ่งใช้เงินงบประมาณของสำนักงานวัฒนธรรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในจำนวน 80,000 บาท โดย นางจุรีพร ขันตี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายงบประมาณ ทำเรื่อง สัญญาว่าจ้าง กับผู้รับจ้างจัดงานโครงการดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 80,000 บาท แต่ไม่ได้มีการว่าจ้างกันจริง เนื่องจาก ผู้รับจ้าง ไม่ได้เป็นผู้จัดหาหรือจัดทำตามรายการใบเสนอราคา และใบสั่งจ้างของ สำนักงานวัฒนธรรมฯ แต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมฯเป็นผู้ทำเอกสารการว่าจ้างมาเองทั้งหมดให้ ผู้รับจ้าง ลงชื่ออย่างเดียว

และเมื่อถึงวันที่ 6 ก.ย. 2565 เงินงบประมาณโครงการดังกล่าวโอนเข้ามา 80,000 บาท ผู้รับจ้าง จึงให้ เจ้าหน้าที่การเงินทำฎีกา เบิกเงิน โดยให้โอนเงินค่าจ้าง 80,000 บาทเข้าบัญชีธนาคารของ ผู้รับจ้าง ต่อมา
นางจุรีพร ขันตี ได้สั่งการผ่าน ลูกน้องคนสนิท โทรมาสั่งให้ผู้แจ้งไปบอกให้ ผู้รับจ้าง ทำการถอนเงินสดจำนวน 80,000 บาท ออกมา เพื่อจะนำไปมอบให้ นางจุรีพร ขันตี ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 7 ก.ย. 2565 ซึ่งผู้แจ้งเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดินไปโดยมิชอบ และ นางจุรีพร ฯ เคยมีพฤติกรรม ทุจริตในลักษณะดังกล่าว หลายครั้งแล้ว เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

จนกระทั้งวันที่ 7 ก.ย.2565 เวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ท. ได้นำเงินสด จำนวน 79,188 บาท ที่ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานแล้ว ไปส่งมอบให้กับ นางจุรีพร ขันตี โดยมีเจ้าหน้าที่ของทั้งสามหน่วยงานได้วางกำลังซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ และเมื่อได้ส่งมอบเงินเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปยังห้องทำงานจุดส่งมอบเงินทันที พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา โดยได้ตรวจค้นพบว่ามีเงินสดจำนวน จำนวน 79,188 บาท วางอยู่บนโต๊ะ ทำงานของ นางจุรีพรฯ สอบถามแล้ว นางจุรีพรฯ อ้างว่าเป็นเงินที่รับไว้จริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิด
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบเงินสด 79,188 บาทบนโต๊ะดังกล่าวต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่าหมายเลขบนธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ ลงบันทึกประจำวันไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่าเป็นความผิดฐาน
1. เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย (ตาม ป.อาญา มาตรา 147)
2. เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตาม (ตาม ป.อาญา มาตรา 157)
3. เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ (ตาม ป.อาญา มาตรา 151) หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษดัง กล่าวไว้ดำเนินการสอบสวนต่อไป และ ให้ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ เบื้องต้นในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ซึ่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นแล้วส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป

 

ลิ้งค์การเสนอข่าวของสื่อมวลชน

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3550145

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3550104

https://www.khaosod.co.th/newspaper/newspaper-front-page/news_7254108

https://www.thaipost.net/x-cite-news/216520/

https://mgronline.com/crime/detail/9650000086092

https://www.komchadluek.net/news/local/528972

https://www.dailynews.co.th/news/1445151/

https://www.naewna.com/local/678570

https://www.77kaoded.com/news/samrit/2336798

https://www.isranews.org/article/isranews-news/111857-inves09-273.html

https://www.topnews.co.th/news/421555

https://www.thairnews.com/%

https://www.thairath.co.th/news/crime/2494362

https://www.thairath.co.th/news/crime/2494531

https://www.thebangkoktimes.com/0709220016

https://www.bugaboo.tv/news/641146

https://www.nationtv.tv/news/crime/378885808

https://news.ch7.com/detail/593245

https://news.ch7.com/detail/593263

https://news.thaipbs.or.th/content/319211

https://www.one31.net/news/detail/57652

https://m.youtube.com/watch?v=E7GR2-3i1Fo

https://fb.watch/fpMWlx6ADY/

https://hilight.kapook.com/view/226979

https://thebangkoknews.com/community-news/59728/

https://www.pimthai.co.th/123158

Related