Contrast
Font
5f7e63e72bae6f12057e24fdcb486072.jpg

เกร็ดความรู้...สู้ทุจริต‼️ เรื่อง "กรณีศึกษาการทุจริต" ประจำวันที่ 23 25 28 30 สิงหาคม 2566

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 330

25/09/2566

ในวันนี้เป็นเรื่องราวของกรณีศึกษาการกระทำการทุจริตของพนักงานของรัฐและมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการเรียกรับเงินจากผู้รับจ้างเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการเบิกจ่ายเงินค่าจ้าง ซึ่งจะมีเรื่องราวเป็นอย่างไรไปติดตามกันได้เลยครับ

องค์การบริหารส่วนตำบล A ได้ทำสัญญาจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ที่รับผิดชอบ แต่ปรากฏว่าขณะทำการขุดลอกเกิดฝนตกอย่างหนัก ทำให้คันดินที่กั้นน้ำพังทลายน้ำไหลทะลักเข้าพื้นที่ขุดลอก ทำให้ไม่สามารถทำการขุดลอกได้อีก ผู้รับจ้างจึงขอส่งมอบงานและขอเบิกเงินค่าจ้างตามปริมาณงานที่ทำได้จริง คณะกรรมการตรวจการจ้างได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เกิดจากเหตุสุดวิสัย จึงเห็นชอบตามที่ผู้รับจ้างร้องขอ ซึ่งนาย ก. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล A ได้พิจารณาเห็นชอบและร่วมลงนามทำบันทึกต่อท้ายสัญญาจ้าง รวมทั้งพิจารณาอนุมัติให้เบิกจ่ายค่าจ้างแก่ผู้รับจ้างตามปริมาณงานที่ทำจริง แต่ในการจัดทำเช็คเพื่อเบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้าง ได้เสนอให้นาย ก. ลงนาม แต่นาย ก. กลับไม่ลงนาม และเรียกร้องเงินจำนวนหนึ่งจากผู้รับจ้างเพื่อแลกเปลี่ยนกับการลงนามในเช็ค ผู้รับจ้างจึงได้ร้องทุกข์กับตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง และมีการวางแผนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนาย ก. ขณะรับเงินจากผู้รับจ้าง ณ ห้องทำงานของนาย ก.

มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.

กรณีการกระทำของ นาย ก. มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90
------------------------

"การทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์"

นาย ก. อดีตนักบริหารทั่วไป 5 สำนักงานบริการโทรศัพท์แห่งหนึ่ง บริษัท ท. สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีหน้าที่รับเรื่องติดตั้ง ย้าย โอน สำรวจประมาณการการติดตั้งและทะเบียนคู่สายประจำสำนักงานบริการโทรศัพท์แห่งหนึ่ง ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการรับชำระเงิน แต่ได้นำใบเสร็จรับเงินของสำนักงาน ไปกรอกข้อความเรียกเก็บเงินค่าทางสายเกินจากผู้เช่าที่ขอติดตั้งใหม่ โดยทำให้ผู้เช่าฯ จำนวน 61 ราย เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ในการเก็บเงินดังกล่าว ทั้งๆ ที่ผู้ถูกกล่าวหามิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้นแต่อย่างใด แล้วนำเงินที่เรียกเก็บได้จำนวนทั้งสิ้น 320,373.20 บาท ไปใช้เป็นประโยชน์สำหรับตนเองโดยทุจริต ทำให้บริษัท ท. ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง

มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.

การกระทำของนาย ก. เป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้นหรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และเป็นความผิดทางอาญา ฐานปลอมและใช้เอกสารใบเสร็จรับเงินปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264 265 และมาตรา 268และเป็นความผิดวินัย
------------------------
"เรียกรับเงินเพื่อดำเนินการแก้ไขหลักฐานทะเบียนบุคคล"

นาย ก. ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านทะเบียนราษฎรและทะเบียนทั่วไป กระทำการโดยมิชอบด้วยหน้าที่ให้การช่วยเหลือเปลี่ยนชื่อให้นาย ว. เป็นนาย พ. พร้อมทำการเปลี่ยนเลขประจำตัวประชาชนโดยมิชอบด้วยระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2535 และได้เป็นผู้อนุมัติให้นาย พ. มีบัตรประจำตัวประชาชน โดยนาย ก. ได้เรียก รับเงิน จำนวน 15,000 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการดำเนินการดังกล่าว การกระทำของนาย ก. จึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารได้กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น กระทำการรับรองหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงในเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตเป็นเหตุให้ผู้อื่นและราชการได้รับความเสียหาย

มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
การกระทำของนาย ก. เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง และเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 มาตรา 91 มาตรา 157 มาตรา 161 และมาตรา 162 (4) และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 50

------------------------

"ทำหลักฐานเบิกจ่ายเงินเป็นเท็จแล้วเบียดบังเงินไปเป็นประโยชน์สำหรับตน"

พันตำรวจตรี ก. มีหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบการปฏิบัติงานของหมวดการเงินและบัญชี และมีอำนาจหน้าที่ลงลายมือชื่อเบิกถอนเงินนอกงบประมาณ โดยโรงเรียนตำรวจภูธรได้จัดซื้อรองเท้าหุ้มข้อสีดำเป็นเงิน 1,000,000 บาท แต่พันตำรวจตรี ก. ได้จัดทำหลักฐานใบสำคัญรับเงินเป็นเท็จโดยกรอกจำนวนเงิน 1,300,000 บาท โดยนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้เป็นประโยชน์สำหรับตนเอง

มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
การกระทำของพันตำรวจตรี ก. เป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157

Related