Contrast
13f82d722d7c2789600b8afadb1816dc.png

กฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปากในคดีทุจริต (Anti-SLAPP Law) ตอนที่ 5

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
จำนวนผู้เข้าชม: 35

14/08/2568

          ตอนที่ 5 สิทธิในการได้รับความคุ้มครองและช่วยเหลือมีอะไรบ้าง

          เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ความคุ้มครองแล้ว สำนักงาน ป.ป.ช. จะเข้ามามีบทบาทในการ
ให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว สำหรับมาตรการในการให้ความช่วยเหลือได้ตามความจำเป็น โดยแบ่งเป็น 3  กรณี ดังนี้

         
          กรณีที่ 1 หากบุคคลถูกฟ้องคดีแพ่ง สามารถให้ความช่วยเหลือได้ดังต่อไปนี้

          (1) การมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่แก้ต่างให้

          (2) การจัดหาทนายความให้ หรือการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างทนายความ

          (3) การสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี

          (4) การให้ความช่วยเหลือกรณีอื่น ๆ เท่าที่จำเป็น

         
          กรณีที่ 2 กรณีบุคคลถูกร้องทุกข์ ถูกกล่าวโทษ หรือถูกดำเนินคดีอาญา สามารถให้ความช่วยเหลือได้ดังต่อไปนี้

          2.1 หากอยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ

          สำนักงาน ป.ป.ช. จะส่งข้อมูลและมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 132 ไปให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการเพื่อประกอบการพิจารณา โดยให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนการสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

          นอกจากนี้ ยังสามารถให้ความช่วยเหลือโดยสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี และการช่วยเหลือในการปล่อยชั่วคราว ได้ด้วย

          2.2 หากอยู่ระหว่างถูกฟ้องคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์และคดีอยู่ในอำนาจของศาล

          สำนักงาน ป.ป.ช. สามารถให้ความช่วยเหลือ ดังนี้

          (1) การมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่แก้ต่างให้

           - โดยเจ้าหน้าที่ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อแจ้งมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าบุคคลได้รับความคุ้มครองและขอให้ศาลรวมไว้ในสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องและในชั้นพิจารณาพิพากษา

          (2) การจัดหาทนายความให้ หรือการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างทนายความ

          (3) การขอให้พนักงานอัยการเข้าแก้ต่างให้

           - หากเป็นเรื่องที่ควรส่งให้พนักงานอัยการแก้ต่าง สำนักงาน ป.ป.ช. จะประสานไปยังพนักงานอัยการเพื่อขอให้ดำเนินการแก้ต่างคดี และสนับสนุนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาคดี

          (4) การสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี

          (5) การช่วยเหลือในการปล่อยชั่วคราว

          2.3 หากเป็นคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องและคดีอยู่ในอำนาจของศาล

          สำนักงาน ป.ป.ช. จะแจ้งมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความคุ้มครองไปยังบุคคลผู้ถูกฟ้องคดีหรือทนายความที่บุคคลนั้นแต่งตั้ง เพื่อให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลต่อไป

          นอกจากนี้ ยังสามารถให้ความช่วยเหลือโดยสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี และการช่วยเหลือในการปล่อยชั่วคราว ได้ด้วย

          กรณีที่ 3 กรณีบุคคลถูกดำเนินการทางวินัย

          คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะดำเนินการแจ้งมติที่วินิจฉัยว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความคุ้มครองไปยังผู้มีอำนาจดำเนินการทางวินัยทราบ และให้ยุติการดำเนินการทางวินัยในเรื่องนั้นทันที

Related