25 พฤศจิกายน 2568
นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร มอบหมายกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากภาคประชาชน กรณีการแจกนมหมดอายุของถุงยังชีพ พม. ใกล้คุณ ณ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร ศาลากลางจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นข้อสังเกตว่าจะเป็นการใช้งบประมาณของรัฐอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร
ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ได้รับแจ้งเบาะแสจากภาคประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 คนตาบอดไปรับถุงยังชีพจากกระทรวง พม.ใน ถุงยังชีพไม่มีของกินได้เลย มีพวกแป้งทาตัว ผงซักฟอก ยาสระผม และมีนมวัวแดงที่หมดอายุเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 เขาถามพวกคนตาบอดจะเอาไหม คนตาบอดก็บอกว่าเอา เพราะเขามาถึงที่สมาคมและให้อะไรก็ต้องเองและขอสำนาบัตรประชาชนไปด้วย มียากันยุงและนมในถุง 3 กล่อง จำนวนคนรับถุงยังชีพ 50 คน พร้อมทั้งแนบภาพประกอบ ระบุกล่องนมหมดอายุ พร้อมทั้งภาพถ่ายจาก facebook ของ อดีต ส.ส. ท่านหนึ่ง และตัวแทน ส.ส. ที่ได้ทำการมอบถุงยังชีพแก่ผู้พิการทางสายตา ณ สมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอด
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร และสมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอดจังหวัดพิจิตร เพื่อรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นการแจกถุงยังชีพ พม. ใกล้คุณ ดังกล่าว โดยนางสาวกชนิภา เขียวดอกไม้ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร (พมจ. พิจิตร) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับถุงยังชีพที่ประเด็นดังกล่าวว่า ถุง พม. ใกล้คุณ ที่นำไปแจกไม่ได้มาจากการใช้งบประมาณของภาครัฐ ซึ่ง พมจ. พิจิตร จะได้รับการจัดสรรจากศูนย์บริจาคของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อใช้แจกจ่ายแก่กลุ่มเปราะบาง อาทิ กลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้ยากไร้ กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มที่ประสบปัญหาต้องได้รับการช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นต้นตามภารกิจของกระทรวงพม. ซึ่งตามหลักเกณฑ์หากภาคเอกชน หรือประชาชน หรือหน่วยงานภาครัฐ ประสงค์จะขอรับการสนับสนุนถุงยังชีพ พม.ใกล้คุณ ไปแจกสามารถขอรับการสนับสนุนจากทาง พมจ.ได้โดยต้องทำเป็นหนังสือขอรับการสนับสนุนมา และเมื่อมีการแจกถุงยังชีพฯ เรียบร้อยแล้วต้องส่งหลักฐานการลงลายมือชื่อผู้รับถุงยังชีพฯ พร้อมรูปภาพประกอบการแจกถุงยังชีพฯ รายงานกลับมาเพื่อเป็นหลักฐานการดำเนินการดังกล่าวด้วย จากกรณีที่เป็นประเด็นที่มีอดีต ส.ส.ท่านหนึ่งได้มีหนังสือขอรับการสนับสนุนถุงยังชีพ พม. ใกล้คุณ เพื่อแจกจ่ายกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอเมือง สามง่าม และวชิรบารมี ขอมาจำนวน 450 ชุด โดยถุงยังชีพ พม. ใกล้คุณ ในชุดดังกล่าว ประกอบด้วยสิ่งของอุปโภค บริโภค ต่าง ๆ แต่ไม่มีนมจืดยี่ห้อไทยเดนมาร์ค (นมวัวแดง) ซึ่งทาง พมจ.พิจิตร ได้มีลงพื้นที่ไปร่วมแจกด้วยในบางครั้ง และได้รับทราบว่าทางอดีต ส.ส. ได้นำนมจืดยี่ห้อไทยเดนมาร์ค (นมวัวแดง) นำมาร่วมแจกด้วยแต่หมดอายุแล้ว ทาง พมจ. ได้ทำการทักท้วงแล้ว แต่ทางผู้ช่วย อดีต ส.ส. ที่นำนมมาแจกยืนยันว่า นมดังกล่าวยังสามารถทานได้อีกภายใน 2 เดือน แม้ว่าจะหมดอายุแล้ว ซึ่งในวันที่ไปแจกสมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอดจังหวัดพิจิตรทาง พมจ. พิจิตร ไม่ได้ลงพื้นที่ด้วย
และจากการลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงจากสมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอดจังหวัดพิจิตร พบว่ามีการนำถุงยังชีพ พม. ใกล้คุณมาแจกจริงเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งสมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอด มีจำนวนสมาชิกทั้งจังหวัดพิจิตร รวมทั้งหมด 79 คน แต่ในวันที่มารับจริงมีประมาณ 60 คน โดยได้รับแจ้งว่าเป็นผู้ช่วยอดีต ส.ส. จะนำสิ่งของมาแจกและไม่มีเจ้าหน้าที่จากพมจ.พิจิตร มาร่วมแจกในครั้งนี้ ซึ่งถุงยังชีพที่ได้รับ ประกอบด้วยสิ่งของอุปโภค บริโภค ต่าง ๆ ตรงตามที่พมจ.พิจิตรให้ข้อมูล และนมจืดยี่ห้อไทยเดนมาร์ค (นมวัวแดง) ที่หมดอายุแล้วจริง แต่ทางผู้ที่มารับแจกของก็ยินยอมรับไปโดยได้ข้อมูลบางส่วนว่านำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ไม่ได้นำไปบริโภค เพราะเกรงจะส่งผลต่อสุขภาพ และไม่ได้อนุญาตให้มีการนำรายชื่อสมาชิกและสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับแจกของไปด้วย
จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ พบว่าการดำเนินงานดังกล่าวไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน อาจยังไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ แต่เจ้าหน้าที่อาจต้องใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ จังหวัดพิจิตร ในเรื่องของหลักเกณฑ์การสนับสนุนภาคเอกชนในการนำของไปแจกให้แก่กลุ่มเปราะบาง ควรมีความชัดเจนว่าวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้สำหรับกิจกรรมในลักษณะอย่างไร และกลุ่มเป้าหมายตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ การเพิ่มกระบวนการตรวจสอบคุณภาพสิ่งของที่ร่วมบริจาคก่อนนำไปแจกให้กับกลุ่มเป้าหมาย และต้องเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการแจกถุงยังชีพที่ชัดเจนและกรอบระยะเวลา ในการดำเนินการที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการหมดอายุของสิ่งของก่อนการนำไปแจกจ่าย เป็นต้น รวมถึงจำเป็นต้องระมัดระวังลักษณะของกิจกรรมที่นำไปถุงยังชีพไปแจกเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ในทางการเมืองประกอบด้วย
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ยังคงดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นดังกล่าว หากพบว่ามีประเด็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกิดขึ้น จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
" ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ "
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร
23/6 ถนนฝั่งสถานีรถไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
0 5661 3407 – 9