Contrast
18a07fbb49c37bb3286da1920e5d865f.jpg

ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้าง คสล. สายจากสามแยกบึงประดู่ถึงคลองชลประทาน

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร
จำนวนผู้เข้าชม: 58

04/12/2568
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้าง คสล. สายจากสามแยกบึงประดู่ถึงคลองชลประทาน C1 หมู่ที่ 5 บ้านบึงประดู่ ตำบลทับหมัน กว้าง 5 เมตร ยาว 718 เมตร หรือมีพื้นที่คอนกรีตไม่น้อยกว่า 3,590 ตรม. สัญญา E1/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568
 
      4 ธันวาคม 2568 นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร มอบหมายกลุ่มงานป้องกันการทุจริตและกลุ่มปราบปรามการทุจริต ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียน ประเด็น โครงการก่อสร้าง คสล. สายจากสามแยกบึงประดู่ถึงคลองชลประทาน C1 หมู่ที่ 5 บ้านบึงประดู่ ตำบลทับหมัน กว้าง 5 เมตร ยาว 718 เมตร หรือมีพื้นที่คอนกรีตไม่น้อยกว่า 3,590 ตรม. สัญญา E1/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยกล่าวอ้างว่านายกองค์การบริหารส่วนตำบลทับหมัน และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ช่างผู้ควบคุมงานโครงการก่อสร้าง ดังกล่าวกลั่นแกล้งผู้รับจ้างทำให้ทำงานล่าช้าและได้รับความเสียหาย ประกอบกับ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลทับหมัน ก็ได้ขอความอนุเคราะห์จากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากพบปัญหาช่างผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ในฐานะผู้ว่าจ้างมีการแจ้งลายลักษณ์อักษรหรือบอกกล่าวด้วยวาจา กับผู้รับจ้างให้ปฏิบัติงานตามรูปแบบรายการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการช่าง แต่ผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติตามที่ผู้ว่าจ้างได้แจ้ง จึงทำให้การดำเนินการก่อสร้างถนนดังกล่าวไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการและไม่ดำเนินการตามสัญญาจ้าง แม้ว่าช่างควบคุมงานสั่งให้หยุดงาน แต่ผู้รับจ้างขัดขืน ขัดคำสั่ง ไม่ยอมหยุดงานโดยดำเนินการเทคอนกรีต ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ทางราชการ แต่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเป็นช่วงการบริหารสัญญา ซึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานผู้ว่าจ้างที่ต้องทำหน้าที่ดังกล่าวจึงไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ สำนักงานฯ จึงไม่ได้ลงไปในช่วงระยะเวลาดังกล่าวที่ขอรับการสนับสนุนมา แต่เพื่อเป็นการตรวจสอบคุณภาพถนนให้สามารถใช้งานได้ดีมีคุณภาพตามหลักวิชาการก่อสร้าง และประชาชนได้ใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง และเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งอาจมีประเด็นความเสี่ยงเกี่ยวกับการทุจริต และให้เป็นไปตามแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ช. (Corruption Deterrence Center : CDC) สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นดังกล่าว ณ องค์การบริหารส่วนตำบลทับหมัน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร โดยประชุมร่วมกับคณะกรรมการตรวจรับโครงการในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายลงพื้นที่ตรวจสอบถนนสายดังกล่าว ซึ่งในวันดังกล่าวได้แจ้งเรียนเชิญผู้รับจ้างเข้าร่วมด้วย แต่ผู้รับรับไม่ได้ส่งผู้แทนมาเข้าร่วม
🔎จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง หน่วยงานเจ้าของโครงการ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลทับหมัน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ได้รับงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงินงบประมาณตามสัญญา จำนวน 1,900,000 บาท (หนึ่งล้านเก้าแสนบาทถ้วน) คู่สัญญา ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกไพศาลก่อสร้าง สัญญาเริ่มต้น 1 พฤษภาคม 2568 สิ้นสุดสัญญา 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานในวันที่ 17 กันยายน 2568 โดยเกินระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจากข้อร้องเรียนของผู้รับจ้างที่กล่าวอ้างว่าผู้ว่าจ้างกลั่นแกล้งทำให้ทำงานล่าช้า โดยในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้รับการชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
>> ประเด็นการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า: อบต.ทับหมัน ยอมรับว่ามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องการส่งมอบพื้นที่ โดยเข้าใจว่าต้องรอให้ผู้รับจ้างส่งแผนงานก่อสร้างให้คณะกรรมการอนุมัติแผนก่อนจึงจะลงงานได้ จึงจะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ทำให้การส่งมอบพื้นที่ล่าช้าไป 27 วัน แต่อย่างไรก็ตาม ผู้รับจ้างก็ได้มีการเข้าดำเนินการถางป่าและขุดตอไม้ไปก่อนหน้าที่จะได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการแล้ว
>> ประเด็นการตรวจแก้ไขงานบ่อยครั้งทำให้ส่งมอบงานล่าช้า : อบต.ทับหมัน ได้ชี้แจงปัญหาที่ต้องให้มีการแก้ไขงาน เนื่องจากชั้นรองพื้นทางที่ผู้รับจ้างดำเนินการยัง ไม่ได้ระดับตามที่กำหนด เพราะถนนเดิมเป็นถนนคอนกรีตที่เป็นการลาดยางทับ ในการก่อสร้างใหม่มีเนื้องานที่ต้องเสริมชั้นลูกรัง (ชั้นรองพื้นทาง) เพื่อยกให้สูงขึ้นจากเดิม เนื่องจากบางช่วงมีระดับต่ำและมีปัญหาน้ำท่วม การเสริมชั้นลูกรังต้องผ่านการทดสอบค่าความแน่น และได้ระดับตามที่กำหนด ซึ่งตามแบบกำหนดความหนาแน่ไว้ไว้ที่ 95% และต้องใช้กล้องส่องวัดระดับทุก 25 เมตร แต่ในขณะนั้นผลทดสอบระบุว่าระดับยังไม่ได้ตามมาตรฐาน ทำให้ อบต. ทับหมัน ได้จัดทำแผนที่กำหนดจุดเสริมดินลูกรังให้ผู้รับจ้างแก้ไขให้ครบถ้วนตามกำหนดเพิ่มเติม เพื่อให้ได้พื้นทางของระดับและความหนาแน่น ซึ่งคณะกรรมการควบคุมงานไปตรวจและส่องระดับถึง 3-4 ครั้ง พบว่าผู้รับจ้างก็ยังไม่สามรถยกพื้นทางให้ได้ระดับตามที่กำหนดในหลายรอบ จึงทำให้เป็นลักษณะของการแก้ไขแล้วแก้ไขอีกจนเกิดการพิพาทขึ้น ในขณะที่ระดับยังไม่ได้และอยู่ระหว่างการโต้แย้ง ผู้รับจ้างทำการเทคอนกรีตเพิ่มไปอีกประมาณ 100 กว่าเมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากช่างคุมงาน และช่างคุมงานได้สั่งหยุดงาน แต่ผู้รับจ้างไม่หยุด จนทำให้ช่างคุมงานได้ทำบันทึก แจ้งความ (บันทึกประจำวัน) เพื่อยืนยันว่าได้ทำหน้าที่สั่งหยุดงานแล้ว แต่ผู้รับจ้างไม่ยอมหยุด
>> ประเด็นการแจ้งหยุดงานชั่วคราวและแจ้งบอกเลิกสัญญา : เนื่องจากในช่วงที่เกิดประเด็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้น อบต. ทับหมันก็พยายามในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้มีการประสานงานหารือกับสำนักงานคลังจังหวัดพิจิตร เกี่ยวกับกรณีพิพาทดังกล่าว เพราะโครงการหมดสัญญาในวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 แต่งานเสร็จไปเพียงร้อยละ 15 ซึ่งเมื่อครบกำหนดส่งมอบตามสัญญา หากมีผลงานสะสมน้อยกว่าร้อยละ 85 ของวงเงินค่าพัสดุหรือค่าจ้าง เป็นเหตุให้สามารถปฏิบัติได้ตามแนวทางการเร่งรัดการปฏิบัติงานตามสัญญาและการกำหนดคุณสมบัติของ ผู้มีสิทธิยื่นข้อเสนอ ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค(กวจ)0405.2/ว 124 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2566 เพื่อดำเนินการบอกเลิกสัญญา จึงทำให้ อบต. ทับหมันได้มีหนังสือแจ้งกับผู้รับจ้างตามหนังสือ ที่ พจ 77103/327 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568แจ้งให้หยุดงานชั่วคราว และหนังสือที่ พจ 77102/328 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 แจ้งยกเลิกสัญญาจ้าง โดยในหนังสือฉบับนี้แจ้งผู้รับจ้างด้วยว่าหากประสงค์จะดำเนินการก่อสร้างต่อให้แจ้งแผนการทำงานใหม่ ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือ ในท้ายที่สุดผู้รับจ้างตกลงที่จะก่อสร้างถนนต่อ โดยมีเงื่อนไขทำบันทึกข้อตกลงแนบท้าย สัญญา 3 ข้อ ได้แก่
1. ผู้รับจ้างต้องดำเนินการแก้ไขชั้นรองพื้นทางที่ยังไม่ได้ระดับให้เรียบร้อยอีกจำนวน 3 จุด
2. ต้องรื้อแบบเหล็กที่วางขวางทางออก และตั้งใหม่เมื่อปรับปรุงฐานรากแล้ว เพื่อให้สามารถบดอัดพื้นทางให้ได้ระดับตามที่กำหนด
3. ต้องทำการ ตรวจสอบพิเศษ (วิธีพิเศษ) สำหรับคอนกรีตที่เทไปโดยพลการที่มีการสั่งให้หยุดทำแต่ไม่ปฏิบัติตาม โดยใช้การตรวจสอบใช้วิธี เจาะทดสอบ (Core Drilling) เพื่อวัดความหนา และ สแกนเหล็ก เพื่อพิสูจน์ว่ามีการเสริมเหล็กตามแบบ การเจาะทดสอบทำช่วงละ 3 จุด โดยให้ช่างคุมงาน คณะกรรมการ และผู้รับจ้างชี้จุดเจาะ เพื่อไม่ให้เกิดความยุติธรรม
        สำหรับการทดสอบตามมาตรฐาน อบต. ทับหมันได้ประสานงานกับแขวงทางหลวงชนบทพิจิตร มาทำการทดสอบความแน่นโดยใช้เครื่องยิงด้วยนิวเคลียร์ ซึ่งผลการเจาะทดสอบพบว่าความหนาของคอนกรีตได้ที่กำหนด ความกว้าง ได้ 5.10 เมตร (กำหนด 5.00 เมตร) ความยาว 720 เมตร (กำหนด 7.18 เมตร) และความหนา 0.16 เมตร (กำหนด 0.15 เมตร) ซึ่งเกินกว่าที่กำหนดตามที่วัด และผู้รับจ้างส่งมอบงานในวันที่ 17 กันยายน 2568 และทำการ ตรวจรับและเบิกจ่ายงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ อบต. ทับหมันได้ดำเนินการบริหารสัญญาตามที่ระเบียบกฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยผู้รับจ้างถูกปรับกรณีส่งมอบงานล่าช้าจำนวน 43,700 บาท และจากหักวันที่ส่งมอบพื้นที่ดำเนินการให้ล่าช้า
         ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาหลังการก่อสร้างพบรอยร้าวเกิดขึ้นแล้ว 3 จุด ซึ่งได้มีการหยอดน้ำยาแอสฟัสท์ซ่อมแซ่มเพื่อเชื่อมรอยแตกเรียบร้อยแล้ว โดยยังไม่กระทบต่อโครงสร้างถนน สาเหตุ ซึ่งคาดว่าเกิดจาก รถบรรทุกหนัก (เช่น รถเกี่ยวข้าว หรือรถบรรทุกข้าว 10 ล้อ ซึ่งบรรทุกเกิน 15 ตัน) เพราะบริเวณถนนมีท่าข้าวอยู่จำนวน 2 จุด รถบรรทุกหนักเข้าออกเป็นประจำ ทางอบต. ยืนยันว่าได้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบกฎหมายแล้ว แต่ความเสียหายเกิดขึ้นนั้นเกิดจากปัจจัยภายนอก โครงการยังอยู่ในระยะประกันสัญญา 2 ปี หากเกิดปัญหาขึ้น อบต. ทับหมันจะแจ้งผู้รับจ้างให้ดำเนินการซ่อมแซม แต่หากผู้รับจ้างไม่เข้ามาแก้ไข อบต. จะใช้เงินประกันสัญญาดำเนินการแทน
         นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ช ประจำจังหวัดพิจิตร ได้ให้ข้อสังเกตเสนอแนะหน่วยงานควรมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้รับจ้างตั้งแต่เริ่มต้นที่เข้าเสนอราคาว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกันหรือไม่เพื่อป้องกันปัญหา การฮั้วประมูล และในกรณีที่โครงการมีการเบิกงวดงานเพียงงวดเดียว หน่วยงานควรมีแผนการตรวจงานเป็นขั้นตอนในแต่ละช่วงระยะเวลาเพื่อให้มีการตรวจสอบความก้าวหน้าของการก่อสร้างในโครงการได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ หากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตรพบว่ามีประเด็นปัญหาที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกิดขึ้นในเรื่องดังกล่าว จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
" ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ "
 
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร
23/6 ถนนฝั่งสถานีรถไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
0 5661 3407 – 9
ระบบแจ้งเบาะแสการทุจริตออนไลน์ (e-service) https://wbs.nacc.go.th/

Related