มาตรการเพื่อป้องกันการทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
(มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 44/2565 วันที่ 20 เมษายน 2565)
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565
สภาพปัญหาและข้อเท็จจริง
การจัดเก็บภาษีเป็นเครื่องมือทางการคลังที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลในการหารายได้เพื่อใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและการสนับสนุนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนั้นแล้ว ภาษีอากรยังเป็นเครื่องมือทางการคลังที่สำคัญของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในกรณีที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ปกติ รัฐบาลจำเป็นต้องมีการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจจากข้อมูลสถิติการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม พบว่า มีการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนมากถึงกว่า 3.32 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้เกิดการทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนมากตามมา โดยจากรายงานสถิติคดีศาลยุติธรรมประเภทข้อหาที่ขึ้นสู่ศาลภาษีอากรกลางเป็นจำนวนมากที่สุด คือ ข้อหาเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลกรณีร่วมกันทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จอีกหลายคดี เป็นจำนวนเงินหลายพันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันการทุจริตภาษีอากรยังคงปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง โดยบางกรณีมีการใช้วิธีการทุจริตและวิธีการใหม่ ๆ หลายรูปแบบร่วมกัน ทำให้มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น และโดยส่วนใหญ่กระทำโดยลำพังไม่ได้ แต่จะเป็นการร่วมมือกันกระทำการทุจริต ระหว่างผู้มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีอากรและภาคเอกชนที่ล้วนแต่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
ข้อเสนอแนะ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเห็นควรเสนอแนะให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการเชื่อมโยงข้อมูลกันระหว่างหน่วยงานจัดเก็บภาษี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออก ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานด้านการจดทะเบียนพาณิชย์ จัดให้มีระบบการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตที่มีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ และจัดให้มีสินบนนำจับในกรณีมีผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตเกี่ยวกับภาษี
พร้อมทั้งให้กรมสรรพากรกำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบการทุกรายต้องจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และรายงานภาษีซื้อ ภาษีขายในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มกลไกการตรวจสอบ ถ่วงดุล สอบยัน ในหน่วยจัดเก็บภาษี กรมศุลกากรควรเพิ่มกลไกการตรวจสอบเพิ่มเติมจากมาตรฐานที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบผู้ส่งสินค้าส่งออกที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการทุจริตในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงให้กระทรวงพาณิชย์และสถาบันการเงินควรมีการตรวจสอบเกี่ยวกับผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง
“สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมประชุมหารือกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” วันที่ 13 มีนาคม 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรมและสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ หารือร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ณ ห้...
การประชุมสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุมสถาบันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ อาคาร ๖ ชั้น ๒ สำนักงาน ป.ป.ช. เริ่มประชุมเวลา ...
ประชาสัมพันธ์ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 (ประเด็นการป้องกันการฟ้องคดีปิดปาก (Anti-SLAPP Law)) ---- รายละเอียดเพิ่มเติม---- https://www.nacc.go.th/.../2018083118464317/20250606091727? &n...
ขอประชาสัมพันธ์ผลสำเร็จ/การถอดบทเรียนจากการดำเนินงานตามแผนส่งเสริมคุณธรรมของสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รายละเอียดสื่อเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่นี่
สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ขอแสดงความยินดีกับ หน่วยงาน/บุคคล ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นผู้ที่มีคุณธรรมและทำความดีจนเป็นแบบอย่างได้
เริ่มประชุมเวลา 13.30 น. เมื่อครบองค์ประชุม นางสาวลัดดา เดือนสว่าง ผู้อำนวยการสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ประธานในที่ประชุม กล่าวเปิดการประชุมและดำเนินการประชุมตามวาระ ดังต่อไปนี...