Contrast
banner_default_3.jpg

ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาคดี นายกิจ หลีกภัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ทุจริตเรื่องการเช่าท่าเทียบเรือนาเกลือเพื่อใช้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง
จำนวนผู้เข้าชม: 48

10/04/2568

ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ว่าการกระทำของนายกิจ หลีกภัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 กรณีทุจริตเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าท่าเทียบเรือและอาคารประกอบ ตำบลนาเกลือ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อใช้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล เนื่องจากจะต้องขออนุญาตต่อกรมเจ้าท่า และต้องมีอัตราค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการและค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการลำเลียงขนถ่ายสินค้า ร่วมทั้ง ไม่ได้เสนอขอมติจากสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ไม่ได้ขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และไม่ได้ดำเนินการโดยการประมูล ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการให้เอกชนกระทำกิจการขององค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๑ จนมีเหตุให้ ไม่สามารถเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมที่ออกใบแจ้งหนี้ไว้ก่อนตราข้อบัญญัติและไม่สามารถนำเงินค่าตอบแทนในส่วนของการบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นรายได้ของ อบจ.ได้ และในขณะเดียวกันยังให้บริษัทเอกชนดำเนินการให้บริการเครื่องจักรในแต่ละวันใช้เครื่องจักรประมาณ ๕ – ๘ คัน และเครื่องจักรดังกล่าวจะจอดประจำอยู่ในพื้นที่ของท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือโดยตลอด ไม่มีการนำเครื่องจักร เข้า – ออก แต่อย่างใดและปรากฏว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังได้เก็บเพียงค่าธรรมเนียมการใช้บริการจากบริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) เพียงค่าบริการรถยกตู้สินค้าและค่าบริการรถปั้นจั่น โดยที่ไม่ได้เรียก เก็บค่าธรรมเนียมในส่วนของเครื่องจักรกลที่บริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) นำมาไว้ในพื้นที่เขตท่าเรือเกิน ๒๔ ชั่วโมง นั้น                                 เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9  พิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,90 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา 12 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒ จึงพิพากษาให้จำเลยจำคุก 5  ปีและปรับ 120,000  บาท การสืบพยานของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 68,000 บาท โทษจำคุกรอไว้ 2 ปี

Related