ปัญหาการทุจริต มีความรุนแรงและแพร่กระจายไปสู่ทุกภาคส่วนของสังคม โดยมิได้จำกัดอยู่แต่เพียงภายในประเทศหนึ่งประเทศใดเท่านั้น ลำพังแต่กฎหมายหรือการดำเนินการตามกฎหมายภายใน ไม่อาจจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ทั้งหมด อาทิเช่น กรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐของกระทำความผิด หลบหนีออกนอกประเทศ หรือมีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดไปซุกซ่อนยังประเทศที่สาม กรณีทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่มีความจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสิ้น
ที่ผ่านมา TACC ได้ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศในหลายๆ กรณี TACC ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือในเชิงข้อมูลการข่าว ซึ่งการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวอยู่ในขีดความสามารถของสำนักงาน ป.ป.ช. ในอันที่จะให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานพันธมิตรได้ ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการของประเทศไทย ได้มีการร้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรในต่างประเทศและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน อันเป็นประโยชน์ยิ่งแก่การดำเนินคดีทุจริต
ศูนย์ประสานงานคดีระหว่างประเทศดำเนินการตามความร่วมมือระดับทวิภาคีเพื่อให้ความช่วยเหลือของแก่หน่วยงานพันธมิตร ใน 3 ลักษณะ กล่าวคือ
1. การสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตระหว่างประเทศ
- การค้นหาตรวจสอบข้อมูลหรือการข่าวเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีทุจริต
- การระบุที่พำนักหรือถิ่นที่อยู่ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริต เช่น ผู้ต้องสงสัย พยาน หรือผู้ต้องหาหลบหนี เป็นต้น
- การปฏิบัติการเฝ้าสังเกตการณ์บุคคลหรือทรัพย์สิน (Surveillance)
- การประสานเพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาหรือคดีจากพยานหรือบุคคลที่ให้ความร่วมมือ
2. การให้คำแนะนำทางกฎหมาย
- ให้คำแนะนำทางกฎหมาย ตลอดจนเผยแพร่กฎหมายไทย (ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว) ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีทุจริตและการติดตามทรัพย์สินคืนแก่หน่วยงานพันธมิตรต่างประเทศ อาทิ ประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
- เสนอแนะแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายไทย ในกรณีที่ต้องการขอความร่วมมือจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทย
3. การประสานความร่วมมือตามคำร้องขอความช่วยเหลือระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริต
- เป็นตัวกลางประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายในประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการดำเนินการตามคำร้องขอความช่วยเหลือระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับคดีทุจริต
โดยหน่วยงานหลักๆ ที่ได้มีการประสานการดำเนินการร่วมกัน เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ตลอดจนบริษัทเอกชนที่ยินยอมให้ความร่วมมือในรูปแบบอย่างไม่เป็นทางการ
ทั้งนี้ ข้อมูลหรือหลักฐานที่ได้มาจากความช่วยเหลืออย่างไม่เป็นทางการนี้ สามารถนำไปใช้ได้ในฐานะที่เป็นข้อมูล/การข่าวเพื่อประโยชน์ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนเท่านั้น ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายภายในของประเทศส่วนใหญ่ มีเพียงแต่พยานหลักฐานที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งได้รับผ่านการร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาอย่างเป็นทางการ (Formal Mutual Legal Assistance) เท่านั้น ที่สามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานในศาลได้
|