ป.ป.ช. TaC Team รองผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช กำหนดข้อตกลงต้านและลดทุจริตประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตการขุดตักทรายในที่ดินกรรมสิทธิ์และการลักลอบดูดทราย
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 662
เมื่อวันที่ 8-9 มิถุนายน 2565 สำนักงาน ป.ป.ช. นำโดย นายประทีป คงสนิท ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 8 นายจักรินทร์ ชุมจินดา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายอับดุลฮาลีม สะแมบากอ ผู้อำนวยการกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 8 และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง ลงพื้นที่ร่วมกับนายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้โครงการต้านและลดการทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG : Together against Corruption - TaC) ในประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตการขุดตักทรายในที่ดินกรรมสิทธิ์และการลักลอบดูดทรายในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
---
ประเด็นความเสี่ยงดังกล่าวมีที่มาจากข้อมูลการปักหมุดของเครือข่ายภาคประชาชน ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ว่ามีการประกอบกิจการท่าทรายในพื้นที่อำเภอฉวางและอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้รถบรรทุกทรายเกินน้ำหนัก ทำให้ถนนชำรุด มีการลักลอบดูดทราย และการขุดตักทรายนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต โดยล่วงล้ำลงในพื้นที่ลำน้ำ ส่งผลทำให้ตลิ่งพัง เส้นทางน้ำเปลี่ยน ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ของประชาชน
---
จากการลงพื้นที่ TaC Team บริเวณท่าทรายริมแม่น้ำตาปี ตำบลนากะชะ อำเภอฉวาง พบว่าผู้ประกอบการได้ขออนุญาตดำเนินการในที่ดินกรรมสิทธิ์ของตนเอง แต่ปรากฎพฤติการณ์ลักลอบนำเครื่องจักรออกนอกแนวเขตที่ดินและขุดตักทรายในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งพบพฤติการณ์ลักลอบดูดทรายโดยใช้แพบรรทุกเครื่องจักรที่ไม่ได้รับอนุญาตในลำน้ำ ทั้งนี้ พบข้อเท็จจริงว่าผู้ประกอบการรายดังกล่าวเคยถูกแจ้งความดำเนินคดีไปแล้วเมื่อเมษายน 2564 แต่ยังมีการกระทำความผิดซ้ำ นอกจากนี้ ในท่าทรายบริเวณใกล้เคียงกันพบความเสี่ยงจากการขออนุญาตขุดตักทรายในที่ดิน น.ส.3 ก. ซึ่งปัจจุบันไม่เหลือสภาพที่ดิน แต่เปลี่ยนเป็นแอ่งน้ำ ยากแก่การตรวจสอบแนวเขต ซึ่งผู้ประกอบการมีพฤติการณ์ลักลอบดูดทรายโดยไม่ขออนุญาตตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอนุญาตให้ดูดทราย พ.ศ. 2546
---
ส่วนการลงพื้นที่ท่าทรายบริเวณคลองกลาย ตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ พบว่าหลักแสดงแนวเขตที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ขุดตักทรายไม่ชัดเจน สภาพพื้นที่ที่ดินและลำน้ำมีความเชื่อมต่อกันจนยากจะระบุแนวเขต เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการมีพฤติการณ์ขุดตักทรายนอกพื้นที่กรรมสิทธิ์เป็นบริเวณกว้างจากแนวเขตที่ดินไปจนจรดแนวลำน้ำคลองกลาย โดยเห็นสภาพการปรับพื้นที่นอกเขตที่ได้รับอนุญาตเป็นเส้นทางเพื่อนำเครื่องจักรลงไปขุดตักทรายในบริเวณใกล้แนวลำน้ำอย่างชัดเจน ส่งผลกระทบต่อเส้นทางน้ำและความเป็นอยู่ของประชาชน
---
นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมกำหนดข้อตกลงร่วมกับ นายประทีป คงสนิท ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 8 และนายจักรินทร์ ชุมจินดา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงต่อการทุจริตการขุดตักทรายในที่ดินกรรมสิทธิ์และการลักลอบดูดทราย โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นางจิตรอนงค์ สมจริง ผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช นายปราโมทย์ ศรีวิสุทธิ์ ท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช นายประเชิญ สวัสดิวงศ์ นักวิชาการที่ดินชำนาญการพิเศษ สำนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจตุพร เคว็จดำ เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช นายสมโชค อินณรงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนบพิตำ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อำเภอนบพิตำ อำเภอฉวาง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานทางหลวงที่ 16 นครศรีธรรมราช ตลอดจนสมาชิกชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดนครศรีธรรมราช
---
โดยที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า ปัญหาการขุดตักทรายนอกเขตที่ดินกรรมสิทธิ์และการลักลอบดูดทรายในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นกรณีที่เกิดจากการกระทำผิดของผู้ประกอบการ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่และอำนาจต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที โดยมอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เป็นเจ้าภาพดำเนินการในกรณีการกระทำผิดในพื้นที่อำเภอฉวาง และมอบหมายให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช เป็นเจ้าภาพดำเนินการในกรณีการกระทำผิดในพื้นที่อำเภอนบพิตำ โดยมีอุตสาหกรรมจังหวัดเป็นผู้ร่วมดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในส่วนที่เกี่ยวข้อง
---
นอกจากนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริต ที่ประชุมจึงกำหนดข้อตกลงร่วมกัน ดังนี้
1.ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแจ้งผู้ประกอบการทุกรายที่ได้รับอนุญาตให้ขุดตักทรายในที่ดินกรรมสิทธิ์ แสดงแนวเขตที่ดินในการรับอนุญาตขุดตักทรายให้ชัดเจน โดยหลักแสดงแนวเขตต้องสังเกตได้ง่าย และมีความทนทานต่อกระแสน้ำ เพื่อประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐสามารถตรวจสอบแนวเขตได้ตลอดเวลา และให้ผู้ประกอบการแจ้งข้อมูลแนวเขตที่ดินรวมทั้งเครื่องจักรที่ได้รับอนุญาตต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เพื่อประกาศให้ประชาชนรับทราบทั่วกัน
2.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบติดตามการประกอบกิจการขุดตักทราย
ในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยในส่วนของท่าทรายบริเวณคลองกลาย องค์การบริหารส่วนตำบลนบพิตำ กำหนดจะลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
3.ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา สำนักงานที่ดินจังหวัด ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขุดตักทรายและการดูดทราย จัดทำช่องทางการร้องเรียนสายด่วนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเพื่อแจ้งข้อมูลเบาะแสได้อย่างรวดเร็ว โดยหากสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด หรือชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับข้อมูลเบาะแสจากประชาชนจะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการก่อนเป็นลำดับแรก
4.กรณีที่ผู้ประกอบการมีข้อโต้แย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง สิทธิทำประโยชน์ หรืออื่น ๆ อันเนื่องมาจากแนวเขตที่ดินไม่ชัดเจน ให้สำนักงานที่ดินจังหวัดเป็นหน่วยงานเจ้าภาพในการดำเนินการเพื่อสร้างความสมดุลทั้งประโยชน์ของภาคเอกชนและการรักษาทรัพยากรสาธารณะของรัฐ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นอาจพิจารณาเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งคณะทำงานร่วมของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการจัดทำแนวเขตที่ดินตามแนวลำน้ำในจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป
5.ที่ประชุมเห็นชอบให้นำแนวทางการดำเนินการดังกล่าวไปขยายผลในพื้นที่ทุกอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช และมีข้อเสนอแนะต่อการพิจารณาอนุญาตขุดตักทรายในที่ดินกรรมสิทธิ์ซึ่งอยู่ติดแนวลำน้ำในอนาคต ควรพิจารณากำหนดให้มีระยะห่างการขุดตักทรายในที่ดินให้อยู่ห่างจากแนวลำน้ำตามความเหมาะสม
---
ในการนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อรายงานผลการจัดทำข้อตกลงลดความเสี่ยงต่อการทุจริตในประเด็นดังกล่าว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้มีหนังสือสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามข้อตกลงอีกครั้งหนึ่ง และในระหว่างนี้ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการไปพลางก่อนโดยไม่ต้องรอหนังสือสั่งการ ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชจะร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหา เพื่อนำไปสู่การถอนหมุดประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตให้แล้วเสร็จได้ในที่สุด
Related
