ป.ป.ช. จับมือ กทม. ส่งเสริมให้ประชาชนและภาครัฐ มีส่วนร่วมป้องกันการทุจริต
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 99
สำนักงาน ป.ป.ช. สานความร่วมมือกรุงเทพมหานคร ขับเคลื่อนการสร้างพลังภาครัฐ และประชาชน สร้างการมีส่วนร่วมป้องกันการทุจริต จัดประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน และหน่วยงานของรัฐมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2566 โดยมีพลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (คณะกรรมการ สปท.) พร้อมด้วยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รศ.ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ ป.ป.ช. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นางแก้วตา ชัยมะโน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ชั้น 1 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า “การประชุมคณะอนุกรรมการ สปท. เขตพื้นที่กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากในปี 2565 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงไม่ได้จัดให้มีการประชุม และถึงแม้ว่าพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นการปกครองรูปแบบพิเศษ ไม่มีกลไกในรูปแบบคณะกรรมการระดับจังหวัด แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ให้ความสำคัญและดูแลพื้นที่นี้เป็นพิเศษ ในฐานะศูนย์กลางทางการบริหารศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของเกือบทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ดังนั้น คณะอนุกรรมการ สปท. กทม. ชุดนี้ จึงเป็นกลไกความร่วมมือที่แสดงถึงความตั้งใจที่จะดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานครร่วมกัน ซึ่งมองว่า การให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตที่เกิดจากความร่วมมือกันทั้งภาครัฐและประชาชน จะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงที่ทันสมัย โปร่งใส ปลอดจากสินบน และการทุจริตทุกรูปแบบได้อย่างแท้จริง”
พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวต่อไปว่า นโยบายของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการต่อสู้กับปัญหาการทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีการกำหนดสาระสำคัญในเรื่องกรอบระยะเวลาในการไต่สวนคดีทุจริต กำหนดความรับผิดชอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. อำนวยการและบริหารคดีที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งดำเนินการเองในเรื่องร้ายแรง และมอบหมายให้หน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้แก่ สำนักงาน ป.ป.ท. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการในเรื่องไม่ร้ายแรง ตลอดจนติดตามการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดมาตรฐานและความเป็นเอกภาพในการทำงานส่งผลสู่ประสิทธิภาพในการป้องปรามการทุจริต ปัจจุบัน คณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้เร่งรัดสะสางคดีต่าง ๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะส่งผลไปสู่ความเป็นธรรม รวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ และความมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การปราบปรามหรือการป้องกันการทุจริต จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเรื่องการแจ้งเบาะแส และการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต เพื่อนำมาจัดการกับผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว โดยมีกลไกสนับสนุนในเรื่องงบประมาณให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระดับพื้นที่ระดับจังหวัด จะมีคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จังหวัด... เป็นศูนย์กลาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำ และมีผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ ร่วมกับหัวหน้าสำนักงานจังหวัดและผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ท. เขต จึงจะเห็นได้ว่าเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน ซึ่งในระยะถัดจากนี้ ป.ป.ช. และศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร หรือ ศปท.กทม. จะได้มีความร่วมมือดำเนินการใน 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.การขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2.การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน 3.การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและหน่วยงานของรัฐ และ 4.การประสานการดำเนินการต่อเรื่องกล่าวหาร้องเรียน เชื่อว่าจะเป็นการผนึกกำลังเพื่อศักยภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างได้ผลเป็นรูปธรรมในอนาคต
ในส่วนของการขับเคลื่อนภารกิจป้องกันการทุจริต คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นกลไกระดับบโยบาย มีประธานกรรมการ ป.ป.ช.(พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ) เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเป็นรองประธานอนุกรรมการ และมีอนุกรรมการ ประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้แทนประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลอดจน ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจการป้องกันการทุจริตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
Related
