จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 1293
สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 1 เผยผลการดำเนินงานด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 รวมจำนวนทั้งสิ้น 915 บัญชี พร้อมชูคดีตัวอย่าง พบเจ้าหน้าที่รัฐร่ำรวยผิดปกติ จะไม่ปล่อยผ่าน ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะเข้าข่ายมีความผิด
นางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 1 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 กล่าวว่า ผลการดำเนินงานตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของภาค 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 915 บัญชี ประกอบด้วย การตรวจสอบปกติ จำนวน 882 บัญชี การตรวจสอบยืนยัน จำนวน 32 บัญชี และการตรวจสอบเชิงลึก จำนวน 1 บัญชี รวมทั้งพบกรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นในเขตจังหวัดลพบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 4 ราย และกรณีรับเรื่องไว้พิจารณาดำเนินการไต่สวนเบื้องต้น กรณีร่ำรวยผิดปกติ ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ในเขตจังหวัดปทุมธานี จังหวัดชัยนาท และจังหวัดอ่างทอง กรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 4 ราย
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ช.ยังได้มีการแจ้งกรณีร่ำรวยผิดปกติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจำนวน 2 ราย ได้แก่ 1.กรณีนายสมทรง ลีวัฒนะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางกระสั้นอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 138/2565 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 มีมติว่านายสมทรง ลีวัฒนะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางกระสั้น ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติหรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 29,169,766.40 บาท พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรค หนึ่ง แล้ว
ให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาแล้ว
ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีจนถึงที่สุด