จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 773
สำนักงาน ป.ป.ช. เร่งผลักดันแนวทางกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ดุลยพินิจของเจ้าพนักงานรัฐที่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เจ้าหน้าที่ยึดถือเป็นหลัก มุ่งหวังช่วยปิดช่องโหว่การรับสินบน และยกระดับการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันไทยให้มีมาตรฐาน
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เนื่องจากอำนาจดุลพินิจ (Discretionary Power) ถือเป็นอำนาจที่กฎหมายให้แก่ฝ่ายปกครอง โดยเปิดช่องให้ฝ่ายปกครองตัดสินใจได้อย่างอิสระที่จะเลือกกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด แต่การให้อำนาจในการใช้ดุลพินิจก็อาจส่งผลให้เจ้าพนักงานของรัฐใช้เป็นช่องทางในการแสวงหาประโยชน์หรือเรียกรับค่าตอบแทนจากการใช้อำนาจดังกล่าวจนนำมาสู่การใช้ดุลยพินิจที่ไม่เหมาะสมหรือผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการหรือประชาชนได้ ซึ่งจะเกิดผลกระทบในภาพรวมต่อระบบสังคม เศรษฐกิจ และก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันตามมา รวมถึงผลกระทบต่อค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทยอีกด้วย
ดังนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. จึงให้ความสำคัญในการป้องปรามช่องโหว่นี้ โดยได้มอบหมายให้ คณะอนุกรรมการศึกษาการควบคุมการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐในการปฏิบัติงานที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพื่อจัดทำออกมาเป็นมาตรการป้องกันการทุจริตต่อไป ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้กำหนดกรอบแนวทางการศึกษาเอาไว้ โดยศึกษาจากแนวทางการควบคุมการใช้ดุลพินิจเจ้าพนักงานของรัฐในต่างประเทศและในประเทศไทย อีกทั้งกรณีศึกษาการใช้อำนาจดุลพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐที่ไม่เหมาะสมในประเทศไทย ทฤษฎีและระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะการควบคุมการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐในการปฏิบัติงานที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐในการปฏิบัติงานที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ
ของประชาชนเป็นไปโดยชอบและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำนักงาน ป.ป.ช. ได้จัดให้มีการปรับปรุง การปฏิบัติราชการเพื่อป้องกัน หรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ หรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยเสนอข้อเสนอแนะการควบคุมการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐในการปฏิบัติงานที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในรูปแบบของหลักเกณฑ์ ประกาศ หรือคู่มือ เพื่อเป็นแนวทางการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐที่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เจ้าหน้าที่ยึดถือเป็นหลักในการใช้ดุลพินิจและควรมีหลักฐานหรือเอกสารยืนยันว่ามีการใช้ดุลพินิจอย่างไร นอกจากนี้ จะต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐในการอนุมัติ อนุญาต โดยเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับทราบ ตามสื่อในช่องทางต่าง ๆ ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย และเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและแสดงความคิดเห็นได้
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่สำคัญมาก เพราะในหลายประเทศทั่วโลกที่เป็นประเทศสมาชิกในภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศขององค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ซึ่งกำหนดให้เรื่องการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศเป็นความผิดทางอาญา ประเทศต่าง ๆ จึงมีการออกกฎหมายเพื่อเอาผิดกับพลเมืองในประเทศของตนเองที่ไปติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐประเทศอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เป็นต้น ซึ่งการผลักดันให้เกิดแนวทางการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐให้มีความถูกต้องโปร่งใส ยังนับเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรต่อต้านการทุจริตของไทยได้มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานและสอดคล้องกับกฎหมาย กฎข้อบังคับสากลอีกด้วย