Contrast
Font
a9ac205341ba40798f5dbd293dc56767.jpg

ป.ป.ช.นครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกที่สาธารณะ ย้ำ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรปล่อยปละ เสี่ยงผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 1735

23/08/2566

          สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีการสร้างอาคารรุกล้ำที่สาธารณประโยชน์ในพื้นที่เทศบาลเมืองนครพนม พบ การรุกล้ำที่สาธารณะจริง พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่รัฐให้ติดตามตรวจสอบ และขอให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำออก เผย ป้องกันความเสี่ยงมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

          นายสมพจน์ แพ่งประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ลงพื้นที่เข้าเก็บข้อมูลกรณีสร้างอาคารรุกล้ำที่ทางสาธารณประโยชน์พื้นที่เทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าผลการรังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ (ทางสาธารณประโยชน์) มีการก่อสร้างและมีสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำทางสาธารณประโยชน์ ได้แก่ เสาไฟฟ้า จำนวน 7 เสา เสาตอม่อปูน จำนวน 5 เสา อาคาร 1 ชั้น (ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 8 เมตร) จำนวน 1 หลัง และป้ายโครงการรุกล้ำทางสาธารณประโยชน์ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำออกแต่อย่างใด โดยเทศบาลเมืองนครพนมได้แจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนมดำเนินคดีผู้บุกรุกตามกฎหมายต่อไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565

.          สำหรับปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะส่วนใหญ่เกิดจากหลายปัจจัย อาทิ  ผู้บุกรุกไม่ทราบว่าเป็นที่ดินสงวนหวงห้ามอย่างสุจริตใจ เมื่อเห็นว่าเป็นที่ว่างเปล่าจึงเข้าไปยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรือปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวเพื่อทำประโยชน์ หรือแม้แต่กรณีที่ผู้บุกรุกไม่ทราบอาณาเขตที่แน่นอนทราบแต่เพียงว่าที่ดินบริเวณนั้น ๆ เป็นที่สงวนหวงห้ามแต่ไม่ทราบอาณาเขตที่แน่นอนก็เข้าอาจเข้าไปรุกล้ำพื้นที่สาธารณประโยชน์ได้ และในหลายกรณีก็พบว่าผู้ที่รุกล้ำที่สาธารณประโยชน์เป็นกลุ่มผู้ที่มีเจตนาบุกรุก ผู้บุกรุกประเภทนี้ทราบดีว่าที่ดินที่ตนเข้าไปถือครอบครองนั้นเป็นที่สงวนหวงห้าม และในช่วงที่มีการรุกล้ำที่สาธารณะในช่วงแรก ๆ ไม่มี เจ้าหน้าที่เข้ามาว่ากล่าวตักเตือน จนเป็นเหตุให้อาศัยช่องว่างหลบเลี่ยงเรื่อยมา แต่ในบางกรณีก็เป็นการรู้เห็นร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ดูแลพื้นที่สาธารณะกับผู้บุกรุกโดยปล่อยให้เอกชนได้รับประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง

          ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม ได้ขอให้เทศบาลเมืองนครพนมติดตามกรณีเทศบาลเมืองนครพนมได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนมให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกทางสาธารณประโยชน์ โดยขอให้เทศบาลเมืองนครพนมมีหนังสือประสานติดตามขอทราบผลคดีจากสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนมทุก 30 วัน และปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่สาธารณะอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งได้ขอเอกสารหลักฐานกรณีดังกล่าว เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

.

Related