จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 414
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบ รีสอร์ทรุกล้ำพื้นที่ป่าไม้ ที่ชายหาด บ้านเกาะมุก อ.กันตัง จ.ตรัง พบยังเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลสั่งรื้อถอนมานานกว่า 3 ปี
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2566 ที่ผ่านมา นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชน “ชมรมตรังต้านโกง” และนายกมลวัฒน์ ยังสังข์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ตง. 2 วังวิเศษ สิเกา ลงพื้นที่ติดตามการละเมิดคำสั่งศาลที่ให้รื้อถอนรีสอร์ทที่ปลูกสร้างรุกล้ำที่ป่าไม้ บริเวณพื้นที่หาดนายหรั่ง บ้านเกาะมุก อ.กันตัง จ.ตรัง
สภาพพื้นที่บุกรุก เป็นทำเลหน้าผาภูเขาสูงชันมีทิวทัศน์ที่สวยงามและมีมูลค่าที่ดินค่อนข้างแพง เป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ ต้นไม้มีขนาดใหญ่ มีการปรับที่ดินติดกับทะเล ก่อสร้างที่พักถาวร จำนวน 3 หลัง สร้างใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ โดนเลือกช่องว่างของต้นไม้สร้างที่พัก หลังชนภูเขา หน้าติดทะเล มีการตัดเป็นขั้นบันใด โดยใช้จอบขุด แล้วเทราดด้วยซีเมนต์เพื่อสะดวกในการเดิน ลักษณะบ้านพักทั้ง 3 หลัง ก่อนหน้านี้สร้างด้วยการมุงหลังคากระเบื้อง ฝากั้นด้วยไม้ไผ่สาน พื้นปูด้วยไม้ เสาใช้ท่อปูนซีเมนต์และเทคอนกรีตลง ติดตั้งแท็งก์น้ำขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 4 ลูก ไว้บนภูเขา ซึ่งมีการบันทึกการตรวจยึดไว้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2559 โดยนายสมนึก นหลัด เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน โดยผู้บุกรุกครอบครอง คือ นายชอบ หรือ โกยาว ทวนดำ เป็นชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะมุก ซึ่งจากการพิจารณาถึงการลงทุนปลูกสร้างแล้วผู้ยึดถือครอบครองไม่ใช่คนยากไร้
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดพิกัดโดยใช้เครื่องหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม GPS ปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะมุก หมู่ที่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง คำนวนเนื้อที่ป่าที่ถูกบุกรุก 0-0-72 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ 12,283.95 บาท
ทางสำนักอัยการได้ออกหนังสือให้สอบสวนเพิ่มเติมหลายครั้ง และทางศาลอาญาจังหวัดตรังได้พิพากษาให้นายชอบ หรือ โกยาว ทวนดำ มีความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติ และจำเลยให้การสารภาพที่เป็นประโยชน์ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ปรับ 25,000 บาท และโทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี ชดเชยค่าเสียหายมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย จำนวน 12,283.95 บาท แก่รัฐ และให้ออกไปจากที่ดินที่กระทำผิดและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือนำสิ่งใดที่เกิดความเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติออกจากป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าว
จากการลงพื้นที่ของ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ครั้งนี้ พบบ้านพักทั้ง 3 หลัง ได้มีการปรับปรุงจากฝาไม้ไผ่สานเป็นฝาเชอร่า มีการทำความสะอาดและพัฒนาโดยรอบบ้านพัก ถึงแม้ไม่ได้มีการต่อเติมแต่ไม่มีการรื้อถอนแต่อย่างใด ไม่พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าพักเพราะอาจเป็นช่วงฤดูมรสุม มีเพียงพนักงานที่ดูแลทำความสะอาด และพบว่ายังไม่ได้ดำเนินการรื้อถอนตามคำพิพากษาของศาล หน่วยป้องกันรักษาป่าฯ ก็ได้รายงานไปตามระเบียบของกรมป่าไม้ หลังจากมีคำสั่งศาลตั้งแต่เมื่อปี 2563 ผ่านมาเป็นเวลา 3 ปี ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูปิดการท่องเที่ยวจึงไม่มีนักท่องเที่ยวมา มีเพียงคนงานหลัก ๆ หลังจากนี้จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น เพื่อที่จะบังคับให้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลต่อไป
นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตามที่มีคำสั่งศาลพิพากษาให้รื้อถอนที่พักดังกล่าว ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง จึงลงมาติดตามว่าได้รื้อถอนแล้วหรือยัง เบื้องต้นได้รับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าอยู่ในขั้นตอนกระบวนการ จะดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบราชการ หลังจากนั้นจะได้มีการรื้อถอน ในเบื้องต้นที่ดูข้อมูลรายละเอียดของที่พักยังมีการเพิ่มเติมซ่อมแซม จากการสอบถามคนในพื้นที่ยังไม่มีการให้เข้าพัก ตั้งแต่ถูกดำเนินคดี อย่างไรก็ตามได้ขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่รัฐทำตามขั้นตอนของกฎหมายโดยเคร่งครัด ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นต้องดูข้อเท็จจริงก่อน
สำหรับกรณีการบุกรุกป่าสงวนเกาะมุก จ.ตรัง เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน หมู่ที่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง เพื่อสร้างรีสอร์ทหรูของเอกชนในปี 2559 ซึ่งเวลานั้นศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาสั่งลงโทษปรับ และจำคุกจำเลย ซึ่งเป็นบริษัทและเจ้าของรวม 2 ราย ไปแล้ว หรือจะเป็นการก่อสร้างโรงแรมดัง บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เมื่อปี 2562 ก็มีคำสั่งศาลฎีกาลงโทษทั้งจำทั้งปรับจำเลยแล้วด้วยเช่นกัน