Contrast
Font
9dad4eb2f0d4a45bc1a24b4c1ccd8fe6.jpg

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูล เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เรียกรับสินบน ย้ำเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำทุจริตอย่างไรก็หนีไม่พ้น

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 331

12/09/2567

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูล เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เรียกรับสินบน ย้ำเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำทุจริตอย่างไรก็หนีไม่พ้น

 

ป.ป.ช. เผยตัวอย่างคดีทุจริต เจ้าหน้าที่เรียกรับสินบน เตือน หากพบหลักฐานการกระทำผิด ไม่รอดอาญา โดนออกจากราชการ พร้อมย้ำ เป็นกรณีศึกษาเตือนใจเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ประพฤติตนด้วยความสุจริต  

 

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายสุทธิชัย ตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับเงินสินบน โดยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564 มีผู้กล่าวหาได้ไปพบนายสุทธิชัย ผู้ถูกกล่าวหาที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอรับใบอนุญาตหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใดที่ทำจากไม้หวงห้าม แต่ผู้ถูกกล่าวหาได้เรียกรับเงินนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต จำนวน 17,000 บาท และต่อมาผู้กล่าวหา ได้นำเงินที่ถูกเรียกสินบนส่วนแรก  จำนวน 4,000 บาท พร้อมกับเอกสารแบบคำขอรับใบอนุญาตไปส่งมอบแก่นายสุทธิชัย ผู้ถูกกล่าวหา หลังจากที่ใด้รับเอกสารและเงินสด เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้เข้าจับกุมผู้ถูกกล่าวหา และแจ้งข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับเงินสินบน

 

จากกรณีดังกล่าว ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด นายสุทธิชัย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าว ว่ามีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

 

จากกรณีดังกล่าว จะเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหา จะต้องได้รับความผิดตามพฤติการณ์และถูกออกจากราชการ ซึ่งสมควรนำมาเป็นกรณีศึกษาย้ำเตือนว่า เจ้าหน้าที่รัฐพึงปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และให้ตระหนักเสมอว่า การเรียกรับสินบนเป็นบ่อนทำลายชาติ และทำลายตัวเอง

 

ซึ่งในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ช.เห็นควรให้มีการส่งเสริมมาตรการการลดใช้ดุลพินิจโดยนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาควบคุมกระบวนพิจารณาอนุญาต และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการบริการประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ ปิดโอกาสการติดต่อโดยตรงระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการใช้อำนาจดุลพินิจเพื่อต่อรองเรียกรับสินบนของเจ้าพนักงานรัฐ และปิดช่องโหว่พฤติการณ์เรียกรับสินบนในที่สุด

Related