Contrast
Font
531ca1e25c77d779a956ccddc333a387.jpg

สื่อสร้างการรับรู้และตระหนักถึงผลร้ายแรงของการทุจริต

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 193

13/09/2567

สื่อสร้างการรับรู้และตระหนักถึงผลร้ายแรงของการทุจริต

ในยุคปัจจุบัน สังคมไทยและสังคมโลกต่างมีการเผชิญกับปัญหาการทุจริตในหลายระดับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน การผลิตสื่อที่มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้และตระหนักถึงผลร้ายแรงของการทุจริตจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสื่อเป็นเครื่องมือในการส่งผ่านข้อมูลที่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความคิดของผู้คนได้ ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการผลิตสื่อที่สามารถสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงความร้ายแรงของการทุจริต รวมทั้งแนวทางการผลิตสื่อที่มีประสิทธิภาพและนำไปใช้ได้จริงในยุคปัจจุบัน

ความสำคัญของการผลิตสื่อที่เกี่ยวกับการทุจริต

การทุจริตไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม แต่ยังทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากร
อย่างมหาศาล ซึ่งควรจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ หากไม่มีการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เศรษฐกิจของประเทศจะถูกบั่นทอน ความเชื่อมั่นในระบบการเมืองลดลง และประชาชนจะสูญเสียความไว้วางใจ
ต่อหน่วยงานรัฐ

สื่อ จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการกระจายข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการทุจริต เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจถึงความร้ายแรงของปัญหา รวมทั้งกระตุ้นให้คนทั่วไปมีส่วนร่วมในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริต การผลิตสื่อที่มีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับผลกระทบของการทุจริตจะช่วยสร้างการตระหนักรู้ในสังคมและสามารถสร้าง
แรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกได้

แนวทางในการผลิตสื่อเกี่ยวกับการทุจริต

  1. การใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตควรจะเป็นข้อมูลที่ได้รับการยืนยันและน่าเชื่อถือ ไม่ควรพึ่งพาข่าวลือหรือข้อมูลที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ การใช้ข้อมูลจากองค์กร เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) หรือองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญ
    จะช่วยให้สื่อที่ผลิตขึ้นมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
  2. การใช้รูปแบบที่เข้าใจง่าย เนื้อหาของสื่อควรมีการนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ประชาชน
    ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและเข้าใจข้อมูลได้ อาจใช้กราฟิก วิดีโอสั้น หรืออินโฟกราฟิกในการอธิบายผลกระทบ
    ของการทุจริต เพื่อให้เนื้อหามีความน่าสนใจและเข้าถึงได้ง่าย
  3. การใช้เรื่องราวที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน การเล่าเรื่องผ่านมุมมองของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ
    จากการทุจริต เช่น เรื่องราวของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการทุจริตในโครงการสาธารณะ หรือการบริการของภาครัฐ จะช่วยให้ผู้รับสื่อรู้สึกเชื่อมโยงและตระหนักถึงปัญหามากขึ้น
  4. การใช้ตัวอย่างจากเหตุการณ์จริง การอ้างอิงถึงเหตุการณ์การทุจริตที่เกิดขึ้นจริง และผลกระทบ
    ที่เกิดขึ้นตามมา จะช่วยให้ผู้รับสารเห็นภาพชัดเจนถึงความร้ายแรงของการทุจริต นอกจากนี้ การใช้ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยหรือรายงานต่างๆ เช่น ดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perception Index) จากองค์กร Transparency International จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของสื่อได้
  5. การใช้เทคโนโลยีในการเผยแพร่ ในยุคดิจิทัล การเผยแพร่สื่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือบล็อก จะช่วยให้สื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ การใช้เทคโนโลยี
    จะทำให้เนื้อหาเกี่ยวกับการทุจริตสามารถเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
  6. การสร้างสื่อแบบอินเตอร์แอคทีฟ: การผลิตสื่อที่ผู้รับสามารถมีส่วนร่วม เช่น การสร้างเกมออนไลน์หรือแอปพลิเคชันที่สอนเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริต หรือการสร้างแบบทดสอบเกี่ยวกับความรู้เรื่องการทุจริต จะช่วยให้ผู้รับสื่อได้รับความรู้และมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น

ผลกระทบของสื่อที่สร้างการรับรู้เรื่องการทุจริต

การผลิตสื่อที่สร้างการรับรู้และตระหนักถึงผลร้ายแรงของการทุจริต จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในสังคมถึงผลกระทบที่ร้ายแรงของการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ความยุติธรรมในสังคม หรือความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลหรือภาครัฐ การที่ประชาชนมีความเข้าใจในเรื่องนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่น การเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานรัฐ การมีส่วนร่วมในการป้องกันและเปิดโปงการทุจริตในชุมชน และการมีจริยธรรมในระดับบุคคล

ตัวอย่างสื่อที่ถูกผลิตและเผยแพร่เพื่อสร้างการรับรู้และตระหนักถึงผลร้ายแรงของการทุจริตมีหลายรูปแบบ ซึ่งมักใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างดังนี้:

  1. แคมเปญ “No Corruption” จากองค์กร Transparency International

Transparency International เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับการทุจริตทั่วโลก ซึ่งองค์กรนี้ได้จัดทำแคมเปญ “No Corruption” โดยใช้สื่อที่หลากหลาย เช่น วิดีโอกราฟิกสั้น อินโฟกราฟิก และโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงผลกระทบของการทุจริตต่อเศรษฐกิจและสังคม ในวิดีโอที่จัดทำขึ้น มักจะมีการอธิบายถึงการทุจริตในภาครัฐหรือรัฐบาลและธุรกิจเอกชน และผลเสียที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน วิดีโอเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ในหลายภาษาและถูกเผยแพร่ผ่าน YouTube, Facebook, และเว็บไซต์ขององค์กร

วิดีโออินโฟกราฟิกเกี่ยวกับ Corruption Perception Index (CPI) ซึ่งเผยแพร่เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศที่มีการทุจริตสูงมีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ถดถอยอย่างไร วิดีโอเหล่านี้สามารถสร้างผลกระทบให้กับผู้ชม
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. แคมเปญ “Zero Tolerance Against Corruption” จากสหประชาชาติ (UN)

สหประชาชาติมีโครงการที่เน้นการต่อต้านการทุจริตในระดับนานาชาติ เช่น แคมเปญ “Zero Tolerance Against Corruption” ซึ่งใช้สื่อหลากหลายรูปแบบ ทั้งวิดีโอและโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยแคมเปญนี้จะนำเสนอถึงผลกระทบของการทุจริตในภาคธุรกิจ การเมือง และการใช้ทรัพยากรในประเทศต่างๆ

โครงการของ UNODC (United Nations Office on Drugs and Crime) ได้จัดทำวิดีโอและสื่อการเรียนการสอนเกี่ยวกับผลกระทบของการทุจริต เช่น การขาดโอกาสทางการศึกษา การสูญเสียรายได้จากภาษี และการทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมในสังคม

  1. ภาพยนตร์สารคดี “Heist: Who Stole the American Dream?”

ภาพยนตร์สารคดีเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของสื่อที่สามารถสื่อสารปัญหาการทุจริตได้อย่างลึกซึ้ง โดยสารคดีเรื่อง “Heist: Who Stole the American Dream?” ได้เจาะลึกถึงการทุจริตในระดับรัฐบาลและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความยุติธรรมทางสังคมอย่างมาก ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลแก่ผู้ชมเกี่ยวกับการทุจริต แต่ยังสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้ชมตระหนักถึงปัญหาและมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับการทุจริต

สารคดีนี้มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างภาคการเมืองและธุรกิจ และเปิดเผยถึงวิธีที่การทุจริตระดับสูงส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน

  1. 4. เกม “Fight Corruption” จากองค์กร World Bank

World Bank ได้จัดทำเกมออนไลน์ชื่อ “Fight Corruption” ซึ่งเป็นเกมที่ออกแบบมาเพื่อสร้างการเรียนรู้เกี่ยวกับการทุจริต ผ่านการตัดสินใจในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในระดับต่างๆ เช่น การตัดสินใจในภาคการเมืองหรือการทำธุรกิจ เกมนี้ช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจว่าการทุจริตเกิดขึ้นได้อย่างไรและสามารถสร้างผลกระทบเชิงลบในวงกว้างอย่างไร

เกมนี้มุ่งเน้นให้ผู้เล่นได้สวมบทบาทในการจัดการกับปัญหาการทุจริต และต้องตัดสินใจเลือกแนวทาง
ที่ส่งผลต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม เกมนี้เป็นตัวอย่างของการใช้สื่อแบบอินเทอร์แอคทีฟในการสร้างการเรียนรู้

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ ได้มีการดำเนินการผลิตและเผยแพร่สื่อต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และตระหนักถึงผลร้ายแรงของการทุจริต โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างต่อเนื่อง และในบทความนี้ขอยกตัวอย่างมาเพียงบางสื่อเท่านั้น อาทิเช่น

  1. แคมเปญ “STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต”

แคมเปญ “STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต” เป็นหนึ่งในโครงการของสำนัก ป.ป.ช. ที่มุ่งส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในการดำรงชีวิตผ่านแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง แคมเปญนี้เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ เช่น โฆษณาทางโทรทัศน์, วิดีโอออนไลน์, และโปสเตอร์ในที่สาธารณะ โดยมีการนำเสนอแนวคิดว่าการดำเนินชีวิตด้วยความพอเพียงและความซื่อสัตย์จะช่วยป้องกันการทุจริตได้

วิดีโอคลิปที่เผยแพร่ในแคมเปญนี้มักแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการทุจริตที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน และวิธีการที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาผ่านการใช้ชีวิตที่พอเพียงและซื่อสัตย์ โดยสื่อสารในลักษณะที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย

  1. 2. แคมเปญ “Transparent Thailand” และ “Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต”

สำนักงาน ป.ป.ช. ยังได้ริเริ่มแคมเปญ “Transparent Thailand” และได้มีการปรับเปลี่ยนแคมเปญใหม่เป็น “Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต” ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งสร้างความโปร่งใสในภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีการผลิตสื่อหลากหลายรูปแบบ เช่น รายการโทรทัศน์ วิดีโอออนไลน์ บทความ และอินโฟกราฟิก และมีการร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแสดงสัญลักษณ์และจุดยืนในการต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ เพื่ออธิบายเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานรัฐ และการส่งเสริมความโปร่งใสในการบริหารงาน

สื่อที่ผลิตภายใต้แคมเปญนี้ได้แก่ อินโฟกราฟิกที่อธิบายถึงวิธีการตรวจสอบงบประมาณโครงการของภาครัฐ ผลการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนในการต่อต้านการทุจริต และวิดีโอคลิปสั้นที่อธิบายถึงบทบาทของประชาชนในการป้องกันการทุจริต โดยเน้นการทำให้ข้อมูลเหล่านี้เข้าใจง่ายและสามารถนำไป

  1. 3. แอปพลิเคชัน “WE STRONG สำนักงาน ป.ป.ช. รับแจ้งเบาะแส”

เพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้พัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือที่ชื่อว่า “WE STRONG” เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตได้อย่างง่ายดายผ่านโทรศัพท์มือถือ แอปนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิต่างๆ ของประชาชนในการต่อสู้กับการทุจริต และสามารถติดตามสถานะการแจ้งเบาะแสได้แบบเรียลไทม์

แอปพลิเคชันนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการต่อสู้กับการทุจริต โดยผู้ใช้งานสามารถรายงานการทุจริตที่พบเจอในชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการตรวจสอบได้มากขึ้น

  1. แคมเปญ “สื่อสะท้อนสังคมจากผลของการทุจริต”

เพื่อสร้างการรับรู้ของประชาชนให้ตระหนักถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทุจริต โดยมีการยกตัวอย่างผลจากการกระทำความผิดและการรับโทษจากการทุจริต การผลิตและเผยแพร่สื่อสะท้อนสังคมจากผลของการทุจริต มีการเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของศิลปิน ดารา และอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ผู้ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดเห็นและทัศนคติของผู้คนในสังคม อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่มีฐานผู้ติดตามจำนวนมาก

การผลิตและเผยแพร่ “หอมรับแขก” ใน YouTube ตอน “แหกเบื้องลึก อาบอบนวด” และ “ทำบุญด้วยเงินบาป” นำเสนอเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับประเด็นของการทุจริตในแง่มุมต่าง ๆ และแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในระดับบุคคลและสังคม เช่น ตอน“แหกเบื้องลึก อาบอบนวด” มีเนื้อหาของการเปิดเผยถึงความไม่โปร่งใสและการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาบอบนวด ซึ่งอาจมีการคอร์รัปชันหรือการจัดการที่ผิดกฎหมายภายใต้การปกปิดของกิจการที่ดูเหมือนถูกต้องตามกฎหมาย การขาดการตรวจสอบหรือการอนุญาตให้ธุรกิจดังกล่าวดำเนินการภายใต้การทุจริตยังส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของประชาชนต่อระบบกฎหมาย และตอน“ทำบุญด้วยเงินบาป” นำเสนอเกี่ยวกับการทุจริตเงินวัด การบริหารจัดการเกี่ยวกับการเงินภายในวัดหรือแม้กระทั่งการเปิดเผยเกี่ยวกับการเมืองภายในวัด และการทำผิดกฎหมายหรือการทุจริตเงินทำบุญ ซึ่งสะท้อนถึงความขัดแย้งทางจริยธรรมและศีลธรรมเป็นอย่างมาก ซึ่งผลกระทบของการทุจริตในแง่นี้สะท้อนให้เห็นว่าไม่เพียงส่งผลในแง่เศรษฐกิจหรือสังคม แต่ยังส่งผลกระทบทางด้านจิตใจและศีลธรรมในสังคมอีกด้วย

ทั้งสองตอนนี้ทำให้ผู้ชมตระหนักถึงผลกระทบของการทุจริตในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อระบบกฎหมาย สังคม และคุณธรรมในการดำเนินชีวิตของผู้คน

สื่อและโครงการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ สามารถช่วยสร้างการรับรู้และตระหนักถึงผลร้ายแรงของการทุจริตในวงกว้าง และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมากขึ้น อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้และตระหนักถึงผลร้ายแรงของการทุจริต ทั้งในรูปแบบของแคมเปญ วิดีโอ สารคดี เกมออนไลน์ และกิจกรรมชุมชน การใช้สื่อที่หลากหลายช่วยให้ผู้คนในสังคมเข้าใจถึงความร้ายแรงของการทุจริตและกระตุ้นให้พวกเขามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้มากขึ้น

 

Related