ป.ป.ช. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุ ชาวบ้านร้องจุดชมวิว 5.9 ล้านถูกทิ้งร้าง
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 201
ป.ป.ช. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุ ชาวบ้านร้องจุดชมวิว 5.9 ล้านถูกทิ้งร้าง
ป.ป.ช. เผย ชาวบ้านหนองบัว อำเภอรัษฎา จ.ตรัง ร้องเรียนให้ตรวจสอบการก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวจุดชมวิว ควนไอ้กวาง ใช้งบ 5.9 ล้านบาท แต่กลับปล่อยทิ้งรกร้าง ขาดการดูแล ทรุดโทรมมานานนับปี ด้าน ป.ป.ช. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ป้องกันทุจริต
นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สำนักงานป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสภาพการก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวจุดชมวิว ควนไอ้กวาง ที่ใช้งบประมาณกว่า 5.9 ล้านบาท ก่อสร้างเมื่อปี 2565 ซึ่งประชาชนร้องเรียนว่า ไม่ได้ใช้งาน ขาดการดูแลปล่อยให้หญ้าขึ้นรกร้างทรุดโทรม
เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า จุดชมวิวดังกล่าวก่อนหน้านี้เป็นถนนที่ชาวบ้านใช้เดินไปกรีดยางพารา แต่เมื่อเห็นว่าจุดดังกล่าวมีวิวทิวทัศน์สวยงาม จึงต้องการที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะสามารถเชื่อมต่อถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน จึงได้ทำเรื่องของบประมาณ และทำหนังสือขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ก่อนเปิดการประมูลและดำเนินการก่อสร้าง การเดินทางขึ้นชมจุดชมวิวควนไอ้กวาง (ถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม) ต้องเดินทางขึ้นค่อนข้างชันและคดเคี้ยว ระยะทางถึงจุดชมวิวประมาณ 1 กิโลเมตร ถนนลาดด้วยปูนซีเมนต์ตลอดสาย มีลานจอดรถด้านบน ที่พักรถ 5 จุด อาคารต้อนรับนักท่องเที่ยว 1 หลัง ห้องน้ำ 1 หลัง ด้านบนจุดชมวิวมีการตกแต่งตามจุดต่าง ๆ มีโต๊ะ เก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน เก้าอี้ชิงช้า ซุ้มสำหรับถ่ายรูปอีกหลายจุด ซึ่งสภาพขาดการดูแลทรุดโทรม
ทั้งนี้ สำนักงานป.ป.ช. ภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนจึงเร่งติดตามตรวจสอบ โดยอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ว่า มีผู้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ ในการขอไปเข้าสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติด้านการประสานราชการที่หน่วยงานเจ้าของโครงการย่อมต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ก่อนการดำเนินการนำงบประมาณไปใช้ก่อสร้าง อย่างไรก็ตามประชาชนก็ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าวใช้เวลาก่อสร้างเป็นระยะเวลากว่าสองปี ทำไมหน่วยงานที่ดูและพื้นที่เช่นป่าไม้ไม่เข้ามาดำเนินการประสานข้อมูลและยับยั้งโครงการก่อนที่จะมีการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการในการใช้งบประมาณไปโดยไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้ โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรังจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
Related
