จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 523
ป.ป.ช. เผย แนวทางป้องกันสินบน ดึงแนวร่วมภาคเอกชนออกมาตรการควบคุมภายใน
สำนักงาน ป.ป.ช. ส่งเสริมภาคธุรกิจวางแนวทางป้องกันการให้สินบน โดยนำ 8 แนวทางสกัดกั้นปัญหาการให้สินบนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ มุ่งให้เกิดการนำมาใช้เป็นรูปธรรม ลดเสี่ยงผิดกฎหมาย พร้อมย้ำ เอกชนหยุดจ่าย เท่ากับหยุดต่อท่อน้ำเลี้ยงให้เจ้าหน้าที่ทุจริต
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เพราะภาคธุรกิจมีความจำเป็นต้องผลักดันการทำงานให้มีความราบรื่น และรวดเร็ว จึงเป็นเหตุให้หลาย ๆ องค์กรยินดีที่จะจ่ายสินบนเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่ผ่านจากสถิติของคดีสินบนของกลุ่มประเทศ OECD ซึ่งเป็นองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่มีการรวมกลุ่มกันของประเทศต่าง ๆ กว่า 38 ประเทศพบว่า สินบนส่วนใหญ่มาจากการจ่ายเพื่อให้ได้เป็นคู่สัญญาในการจัดซื้อจัดจ้างกับภาครัฐ นอกนั้นเป็นปัญหาสินบนที่เกิดจากการให้ผ่านพิธีการศุลกากร การให้ได้รับใบอนุญาตหรือการอนุญาต สัมปทาน เป็นต้น ซึ่งปัญหาสินบนเหล่านี้ก่อให้เกิดการแข่งขันทางการค้าและธุรกิจที่ไม่เท่าเทียม เป็นธรรม และยังส่งผลกระทบกับชื่อเสียงของประเทศ
สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้สนับสนุนให้ภาคธุรกิจเอกชนและนิติบุคคลจัดทำมาตรการกำกับดูภายในองค์กร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความโปร่งใส สกัดกั้นปัญหาการให้สินบนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ประกอบด้วยแนวทาง 8 ข้อในการเสริมสร้างธุรกิจให้โปร่งใสไร้สินบน เพื่อการต่อต้านการให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ คือ
ทั้งนี้ ตามมาตรา 176 ของ พรบ.ป.ป.ช. ไม่ได้กำหนดให้นิติบุคคลต้องรับผิดเด็ดขาดทุกกรณี โดยหากนิติบุคคลมีมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการให้สินบน นิติบุคคลจะไม่มีความผิด ตามมาตรานี้ ทั้งนี้ กฎหมายยังกำหนดโทษสำหรับ “ผู้ให้สินบน” คือ จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษสำหรับ “นิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้สินบน” คือ ปรับตั้งแต่หนึ่งเท่าแต่ไม่เกินสองเท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประโยชน์ที่ได้รับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากเจตนารมณ์ของกฎหมาย หากองค์กรธุรกิจได้มีความพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันการให้สินบนแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ให้สินบน กฎหมายก็มีข้อยกเว้นให้ไม่ต้องรับโทษด้วยเช่นกัน