การขัดกันแห่งผลประโยชน์ หรือ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม (Conflict of Interest : COI) เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่นำไปสู่ปัญหาการทุจริต นอกจากนี้ การขัดกันแห่งผลประโยชน์ยังเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกนำไปพิจารณาเพื่อประเมินสถานการณ์การทุจริตของประเทศไทย ผ่านคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐและเจ้าพนักงานของรัฐในหลากหลายตำแหน่ง
ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบได้กำหนดให้เป็นพันธกิจร่วมกันของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจต้องขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีประเด็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งหมายให้ “ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และประพฤติมิชอบ” เป็นภาครัฐที่มีการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล เป็น “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม” ที่จำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมแยกแยะประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมให้เกิดขึ้นกับบุคลากรภาครัฐในทุกระดับ ส่งเสริมให้บุคลากรภาครัฐยึดมั่นในหลักคุณธรรม จริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม และหลีกเลี่ยงการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ผ่านแนวทางการพัฒนาภายใต้กรอบการดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ การส่งเสริมองค์ความรู้ (Education) การป้องกันการทุจริต (Prevention) และการปราบปรามการทุจริตและการบังคับใช้กฎหมาย (Enforcement)
- 1. แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพด้านการส่งเสริมองค์ความรู้ (Education) การส่งเสริมองค์ความรู้เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต หน่วยงานภาครัฐต้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้แก่เจ้าพนักงานของรัฐในสังกัด ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานเพื่อปลูกฝังกระบวนการทางความคิด (Mindset) ในเรื่องการต่อต้านการทุจริต สร้างจิตสานึกและความตระหนักรู้ให้บุคลากรในหน่วยงานภาครัฐในการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม เสริมสร้างการใช้หลักธรรมาภิบาลในการปฏิบัติงานและการบริหารราชการ สร้างค่านิยมและส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ให้มีความใสสะอาด ปราศจากพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมและประมวลจริยธรรมอย่างเคร่งครัด
- แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการป้องกันการทุจริต (Prevention) การป้องกันการทุจริต (Prevention) เป็นการดำเนินงานต่อต้านการทุจริตที่มีความสำคัญที่จะช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ แนวทางการพัฒนาด้านการป้องกันการทุจริตตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ดำเนินการโดยการปรับ “ระบบ”เพื่อลดจำนวนคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในหน่วยงานภาครัฐ มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมการต่อต้านการทุจริต เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน และให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงด้านการทุจริต เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐมีมาตรการ ระบบ หรือแนวทางในบริหารจัดการความเสี่ยงของการดำเนินงานที่อาจก่อให้เกิดการทุจริตรวมไปถึงการส่งเสริมให้เจ้าพนักงานของรัฐมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและจับตา มองการทุจริตในหน่วยงานการจัดให้มีช่องทางในการแจ้งเบาะแสการทุจริต ลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าพนักงานของรัฐ ลดการสร้างความสัมพันธ์ของเจ้าพนักงานของรัฐและประชาชนที่เป็นต้นเหตุของสินบนและการขัดกันแห่งผลประโยชน์
- 3. แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการปราบปรามการทุจริตและการบังคับใช้กฎหมาย (Enforcement) แนวทางการพัฒนาด้านการปราบปรามการทุจริตและการบังคับใช้กฎหมาย (Enforcement) ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของกระบวนการและกลไกการปราบปรามการทุจริต โดยเสริมสร้างหน่วยงานตรวจสอบภายในให้เป็นกลไกอิสระและมีความเป็นมืออาชีพในการเฝ้าระวังการทุจริตในหน่วยงานทุกหน่วยงานของรัฐต้องพัฒนาระบบการตรวจสอบภายในของหน่วยงานให้มีประสิทธิผลอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังต้องมีการพัฒนาการจัดการองค์ความรู้ด้านการปราบปรามการทุจริต โดยจัดทำระบบฐานข้อมูลองค์ความรู้ด้านการปราบปรามการทุจริต โดยประมวลจากคดีการทุจริตและผู้เชี่ยวชาญของหน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการปราบปรามการทุจริต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในกระบวนการจัดการเรื่องร้องเรียนและคดีทุจริตของแต่ละหน่วยงานได้ศึกษา และมีสมรรถนะ ความรู้ที่เป็นมาตรฐาน การพัฒนาสมรรถนะและองค์ความรู้เชิงสหวิทยาการของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการปราบปรามการทุจริต/จัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริต เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ ขีดความสามารถที่เป็นมาตรฐานและเท่าทันต่อพลวัตของการทุจริตตลอดจนมีการดำเนินการเกี่ยวกับคดีทุจริตและจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตให้ได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรมโปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้ การส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความใสสะอาด ปราศจากพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต เป็นบทบาทสำคัญของหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องสนับสนุนคุณธรรมและความโปร่งใสให้เกิดขึ้นกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการของเจ้าพนักงานของรัฐ โดยการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการ/มาตรการต่าง ๆ ผ่านแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตของหน่วยงานภาครัฐที่จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างพื้นที่และสภาพแวดล้อมแห่งธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในหน่วยงานภาครัฐได้
----------------------------------------------------------------
อ้างอิง : แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ สำนักงาน ป.ป.ช.