จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 37
ป.ป.ช. เข้าร่วมประชุมคณะทำงานว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ
ระหว่างวันที่ 6-13 ธันวาคม 2568 คณะผู้แทน ป.ป.ช. นำโดยนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักกิจการและคดีทุจริตระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ (OECD Working Group on Bribery in International Business Transactions: WGB) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
ในการนี้ นายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ได้กล่าวถ้อยแถลงเรื่องความก้าวหน้าของประเทศไทยในกระบวนการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนของ OECD (OECD Anti-Bribery Convention) และการเข้าเป็นสมาชิก OECD โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2568 ประเทศไทยได้ส่งมอบบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นสำหรับการเข้าเป็นสมาชิก OECD พร้อมทั้งหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อเริ่มกระบวนการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ในโอกาสการเยือนประเทศไทยของรองเลขาธิการ OECD ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการยกระดับการต่อต้านการให้สินบนให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD โดยประธานคณะทำงานฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับประเทศไทยสำหรับความก้าวหน้าในเรื่องนี้และพร้อมที่จะร่วมมือกันในกระบวนการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ต่อไป
สำหรับการประชุม Global Dialogue ซึ่งในปีนี้มีหัวข้อการอภิปรายคือการรายงานและการให้ความคุ้มผู้แจ้งเบาะแส ผู้แทนสำนักงานป.ป.ช. ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับมาตรการให้คุ้มครองและความช่วยเหลือแก่ผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ในห้วงการประชุมดังกล่าว คณะผู้แทนป.ป.ช. ได้หารือข้อราชการกับผู้แทน OECD เรื่องกระบวนการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ และการจัดกิจกรรมร่วมกับ OECD เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความรับผิดของนิติบุคคลและกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ รวมทั้งได้หารือข้อราชการกับผู้แทนจาก Swedish Police Authority ในเรื่องความร่วมมือทางคดี
ทั้งนี้ การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนของ OECD จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยในการพัฒนากฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและปราบปรามสินบนข้ามชาติ อันจะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนที่โปร่งใส เท่าเทียม และยั่งยืน