จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 807
การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (1) ซึ่งกำหนดให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อเข้ารับตำแหน่งและเมื่อพ้นจากตำแหน่ง โดยต้องยื่นจำนวน 2 ชุด
กรณีมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ประกาศ ณ วันที่ 20 มีนาคม 2566 ส่งผลให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 101 จึงมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.และให้ถือวันที่ยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นวันที่พ้นจากตำแหน่ง ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ข้อ 9 (2) โดยมีช่วงเวลาดังนี้
ช่องทางการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน มี 3 ช่องทาง ได้แก่
* สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เริ่มยื่นบัญชีทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
กรณีไม่สามารถยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ทันภายในระยะเวลาหกสิบวัน สามารถขอยยายระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้อีกไม่เกินสามสิบวัน โดยต้องยื่นคำขอขยายระยะเวลาก่อน
วันสิ้นสุดระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน (19 พฤษภาคม 2566)
กรณีบุคคลใดที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง ต่อมาได้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร บุคคลนั้นต้องยื่นพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงานของรัฐซึ่งจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 103 (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2566
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 (มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นหกสิบวันนับถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา) ส่งผลให้ผู้ดำรงตำแหน่งต่อไปนี้
สำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
หมายเหตุ “ผู้อำนวยการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค” ที่ได้ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไว้แล้ว ให้ถือว่าเป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในตำแหน่ง “ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน”
สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
รองผู้ว่าราชการจังหวัด
ศาลปกครอง
รองอธิบดีศาลปกครองชั้นต้น
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
รองเลขาธิการวุฒิสภา
มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 103 ซึ่งกำหนดให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อเข้ารับตำแหน่ง เมื่อพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และทุกสามปีตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยกำหนดให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน จำนวน 1 ชุด
วันที่แสดงทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง วันที่ 7 มิถุนายน 2566
ระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน (ภายใน 60 วัน) ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2566
ถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2566
ช่องทางการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน มี 3 ช่องทาง ได้แก่
กรณีไม่สามารถยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ทันภายในระยะเวลาหกสิบวัน สามารถขอยยายระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้อีกไม่เกินสามสิบวัน โดยต้องยื่นคำขอขยายระยะเวลาก่อน
วันสิ้นสุดระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน (6 สิงหาคม 2566)