จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 344
สำนักงาน ป.ป.ช. โดยพลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นางสาววันวรา ศิลปวิลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการและคดีทุจริตระหว่างประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะ H.E. Mazin bin Ibrahim Alkahmous ประธานองค์กรกำกับดูแลและต่อต้านการทุจริต (NAZAHA) ณ เมือง เจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อสานความร่วมมือด้านการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตระหว่างสองประเทศ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ เป็นการสร้างความร่วมมือร่วมกันในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่่เกี่ยวกับโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และภารกิจของหน่วยงาน รวมถึงนำเสนอความก้าวหน้าของแต่ละประเทศ พร้อมทั้งได้หารือร่วมกันในเรื่องการประสานความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสององค์กร ภายหลังจากที่ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านการต่อต้านการทุจริตระหว่างสองประเทศให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น สาระสำคัญเป็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนงานวิจัย การศึกษาและการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการป้องกันการทุจริต รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลอาชญากรรมร่วมกัน ซึ่งองค์กร NAZAHA ให้ความสำคัญในพบปะร่วมกันของผู้นำองค์กรทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีเพื่อประโยชน์ในการประสานความร่วมมือร่วมกัน
นอกจากนี้ ยังได้เข้าหารือข้อราชการกับผู้แทนกระทรวงการคลัง นำโดย Mr. Mosaad Alabdullatif ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการโครงการ ช่องทาง และผลิตภัณฑ์ ผู้แทนรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง Mr. Amer Almousa ผู้อำนวยการฝ่ายฝึกอบรมและบริหารการเปลี่ยนแปลง และ Mr. Raid Alqahtani หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร เพื่อรับฟังนโยบายและความก้าวหน้าในการต่อต้านการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย หรือที่เรียกว่า เอทิมัด แพลตฟอร์ม (The National Center for Government Resources Systems: Etimad Platform) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) โดยสามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยในด้านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และสามารถพัฒนาความร่วมมือระหว่างองค์กรในด้านวิชาการต่อไปในอนาคต