Contrast
Font
8e2c44fbeefb105eed43a530f1b39fcc.png

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตนายกอบต.บางหลวง กับพวก ใช้งบประมาณในการถมดินโดยไม่ก่อประโยชน์และทำให้ราชการได้รับความเสียหาย (คดีหมายเลขดำที่ 17-1-171/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 0565-1-50/2566)

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครปฐม
จำนวนผู้เข้าชม: 3806

05/02/2567

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตนายกอบต.บางหลวง กับพวก ใช้งบประมาณในการถมดินโดยไม่ก่อประโยชน์และทำให้ราชการได้รับความเสียหาย (คดีหมายเลขดำที่ 17-1-171/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 0565-1-50/2566)
__________________

 

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีกล่าวหานายบุญเส็ง จูมัจฉะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม กับพวก ใช้งบประมาณในการถมดินบริเวณหมู่ที่ 10 ตำบลบางหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2554 อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม โดยไม่ก่อประโยชน์และทำให้ราชการได้รับความเสียหาย

 

ข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า นายบุญเส็ง จูมัจฉะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ได้อนุมัติให้องค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวง ดำเนินโครงการถมดินเพื่อสร้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวงแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ (บึงหนองอ้อ) ในหมู่ที่ 10 ตำบลบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม โดยใช้งบประมาณจ่ายขาดเงินสะสม จำนวน 1,352,155 บาท ทั้งที่โครงการดังกล่าวไม่ปรากฏในแผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวง และไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ และได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการถมดินฯ ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่า โครงการสร้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวงแห่งใหม่ยังไม่ปรากฏความชัดเจนว่าจะสามารถดำเนินการได้ ทั้งในเรื่องงบประมาณและการอนุญาตให้ใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งภายหลังดำเนินโครงการถมดินฯ แล้ว ก็ไม่ปรากฏว่ามีการดำเนินโครงการสร้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวงแห่งใหม่ และที่ดินบริเวณดังกล่าวยังเป็นเพียงที่ดินรกร้างที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะแต่อย่างใด ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย

 

นายจอมใจ กองเกตุใหญ่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ในฐานะปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวงที่เห็นชอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวง ดำเนินโครงการถมดินเพื่อสร้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวงแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ (บึงหนองอ้อ) ในหมู่ที่ 10 ข้างต้น ทั้งที่โครงการดังกล่าวไม่ปรากฏในแผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวง และไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ และได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการถมดินฯ ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าโครงการสร้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวงแห่งใหม่ ยังไม่ปรากฏความชัดเจนว่าจะสามารถดำเนินการได้ ทั้งในเรื่องงบประมาณ และการอนุญาตให้ใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งภายหลังดำเนินโครงการถมดินฯ แล้ว ก็ไม่ปรากฏว่ามีการดำเนินโครงการสร้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวงแห่งใหม่ และที่ดินบริเวณดังกล่าวยังเป็นเพียงที่ดินรกร้างที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะแต่อย่างใด ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย

 

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้

 

1. พฤติการณ์ของนายบุญเส็ง จูมัจฉะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวง มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลเป็นการกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

 

2. พฤติการณ์ของนายจอมใจ  กองเกตุใหญ่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ในฐานะปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157  และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล จังหวัดนครปฐม เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2544 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 6 วรรคสอง

 

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับบุคคลทั้งสอง และให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน ไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับนายจอมใจ กองเกตุใหญ่ และส่งสำนวนการไต่สวน ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายบุญเส็ง จูมัจฉะ ตามฐานความผิดดังกล่าว และแจ้งองค์การบริหารส่วนตำบลบางหลวง ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

 

จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

หมายเหตุ : การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Related