Contrast
Font
0b11efdc4a8399d363359e0b2e098079.jpg

ป.ป.ช. หนองคาย ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลแนวทางการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. จากปฏิรูปที่ดินจังหวัดหนองคาย

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดหนองคาย
จำนวนผู้เข้าชม: 197

08/02/2567
ป.ป.ช. หนองคาย
ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลแนวทางการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. จากปฏิรูปที่ดินจังหวัดหนองคาย

นายเอกอุดม สูหา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลแนวทางการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. จากปฏิรูปที่ดินจังหวัดหนองคาย เนื่องจากมีผู้แจ้งเบาะแส กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งไม่เป็นตามกฎหมายและระเบียบ ส.ป.ก. ในการอนุญาตเข้าครอบครองที่ดิน ของสำนักงาน ส.ป.ก. จากการลงพื้นที่รับทราบข้อมูลแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดิน มีรายละเอียดดังนี้

1. กรณีการสิ้นสิทธิเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน เกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก. จะสิ้นสิทธิในที่ดินเมื่อมีเหตุ ตามระเบียบ คปก.ว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2540 ข้อ 11 กำหนดว่าเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรจะสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับมอบจาก ส.ป.ก. ในกรณี ดังต่อไปนี้
         (1) ตาย หรือสละสิทธิเว้นแต่จะมีการตกทอดทางมรดกตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518
         (2) โอนสิทธิการเข้าทำประโยชน์การเช่าการเช่าซื้อ หรือการจัดให้โดยมีค่าชดเชยไปยังบุคคลอื่น ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518
         (3) ขาดคุณสมบัติตามระเบียบ คปก. ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกร ซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ดังต่อไปนี้
   ก. สัญชาติไทย
   ข. เป็นเกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
   ค. มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง หรือของบุคคลในครอบครัวเดียวกันเพียงพอแก่การเลี้ยงชีพอยู่แล้ว
         (4) ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามความในข้อ 7 และไม่ปฏิบัติตามคำเตือนในข้อ 8 เหตุแห่งการสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินตามข้อ 11 (1) และ (2) เกษตรกร จะสิ้นสิทธิทันทีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น การขาดคุณสมบัติตาม (3) และกรณีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม (4) จะยังไม่มีผลให้สิ้นสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับมอบทันทีเกษตรกรจะสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน เมื่อ คปจ. มีมติให้สิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน และ ส.ป.ก.จังหวัด มีหนังสือแจ้งมติดังกล่าวของ คปจ. พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาให้เกษตรกรและบริวารออกจากที่ดินและแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์โต้แย้งมติ คปจ. ดังกล่าวหากเกษตรกรไม่ใช้สิทธิอุทธรณ์โต้แย้งและไม่ออกจากที่ดิน ปทจ. มีหน้าที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
2. กรณีเกษตรกรเห็นว่าคำสั่งให้สิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินนั้นไม่เป็นธรรม เกษตรกรมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อ ส.ป.ก.จังหวัด แห่งท้องที่ที่มีคำสั่งได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งหรือวันที่ได้ปิดคำสั่ง โดย ส.ป.ก.จังหวัด มีหน้าที่รวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งมายัง ส.ป.ก. พร้อมคำอุทธรณ์ดังกล่าวภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ เพื่อ ส.ป.ก.จะได้นำเสนอ คปก. พิจารณาอุทธรณ์ต่อไปและในระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์เกษตรกรสามารถเข้าทำประโยชน์ในที่ดินได้ต่อไปจนกว่า คปก. จะมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์โดยมีมติยืนตามคำสั่งของ คปจ. และ ส.ป.ก.จังหวัด ได้แจ้งผลการพิจารณาของ คปก. ดังกล่าวให้ผู้อุทธรณ์ทราบแล้วภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ ส.ป.ก.จังหวัด ได้รับคำวินิจฉัยอุทธรณ์จาก ส.ป.ก.โดย ส.ป.ก.จังหวัด ต้องแจ้งระยะเวลาให้ผู้อุทธรณ์และบริวารออกจากที่ดินอีกครั้งพร้อมทั้งแจ้งสิทธิในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองด้วย

ทั้งนี้ ตามที่มีผู้ร้องเรียนการครอบครองที่ดินไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของ ส.ป.ก. ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ นั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดหนองคาย ได้ขอเอกสารจาก สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดหนองคาย ให้แจ้งผลการตรวจสอบข้อมูล ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดหนองคาย ทราบภายใน 15 วัน เพื่อที่จะดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป
...............................................
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดหนองคาย
โทร. 042-411590
"ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้"

Related