Contrast
Font
ea44099a2b0da3c80b6585ff0627a678.jpg

ผอ. ป.ป.ช. ยโสธร รุดตรวจสอบและบูรณาการหน่วยงานรัฐแก้ปัญหาข้อร้องเรียน การเรียกรับผลประโยชน์จากเอกชนเปิดตลาดนัดคลองถม กรณีตำบลศรีแก้ว อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร
จำนวนผู้เข้าชม: 387

25/07/2565
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร

สปจ. ยโสธร ขอรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการ กรณีการแจ้งเบาะแสถึงสำนักงาน ป.ป.ช. ผ่านศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (Corruption Deterrence Center: CDC) เรื่อง การยึดสนามกีฬาของหมู่บ้านนำไปให้เอกชนเช่าทำตลาดคลองถม กรณีที่ดินสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน ณ บ้านศรีแก้ว ม.1 ตำบลศรีแก้ว อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร นั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร ได้ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้น ณ ตลาดคลองถมตำบลศรีแก้ว เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕ และได้ประสานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อเชิญเข้าร่วมการประชุมปรึกษาหารือในการขอใช้พื้นที่ดังกล่าวทำตลาดนัดคลองถม ในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ที่ทำการเทศบาลตำบลศรีแก้ว

ในที่ประชุมฯ ดังกล่าว สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร ได้เป็นเจ้าภาพในการปรึกษาหารือ เพื่อแสวงหาทางออกร่วมกันเพื่อประโยชน์ของรัฐและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในที่ประชุมปรึกษาหารือและร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง นั้น ประกอบด้วย

๑. นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร เป็นประธานการประชุม

๒. ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร

๓. ผู้แทนธนารักษ์พื้นที่ยโสธร

๔. ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ยโสธรและคณะเจ้าหน้าที่

๕. ผู้แทนนายอำเภอเลิงนกทา

๖. เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดยโสธร สาขาเลิงนกทา

๗. นายกเทศบาลตำบลศรีแก้วและคณะเจ้าหน้าที่

๘. กำนันตำบลศรีแก้ว และผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ บ้านศรีแก้ว และประชาชนในพื้นที่

๙. ผู้แทนชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดยโสธร

๑๐. ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น

ข้อสรุปจากการประชุมปรึกษาหารือ พบว่า ที่ตั้งของตลาดนัดคลองถม ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นเป็นที่ดินของสถานีตำรวจภูธรตำบลศรีแก้ว อำเภอเลิงนกทา ซึ่งสภาพพื้นที่ปัจจุบันนี้ไม่เหลือสภาพของอาคารที่ทำการ สภ.ต. ศรีแก้ว แล้วเหลือเพียงอาคารบ้านพักข้าราชการตำรวจที่ทรุดโทรมเท่านั้น รวมทั้งเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๕๓๖ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธร ได้มาปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้เพื่อเป็นสนามฟุตบอลประจำตำบลศรีแก้วอีกด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่เหลือสภาพของสนามฟุตบอลแล้ว 

กำนันและผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑ บ้านศรีแก้ว แจ้งที่ประชุมว่า ตามคำบอกเล่า คือ เป็นที่รับรู้ว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สภ.ต. ศรีแก้ว ซึ่งเป็นที่ดินที่ได้รับการบริจาคจากประชาชน เมื่อประชาชนจะไปใช้ประโยชน์ เช่น การตั้งโรงพยาบาลสนามของผู้ป่วยโควิด - 19 มักจะถูกอ้างว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นที่ดินของทางสถานีตำรวจภูธรเลิงนกทา  

แต่อย่างไรก็ดีไม่พบว่ามีเอกสารหลักฐานแสดงสิทธิในการมอบบริจาค มีเพียงเอกสารแผนที่ประกอบการขอใช้ขอให้เพิกถอน รังวัด ของสถานีตำรวจภูธรตำบลศรีแก้ว เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๔๔ และเอกสารที่ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรแจ้งการการขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุคุมสิ่งของหลวง ประเภทสิ่งปลูกสร้าง เอกสารแผนที่สังเขปบริเวณที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สภ.ต. ศรีแก้ว จากการเดินสำรวจ เพื่อขอใช้ประโยชน์ที่ดินจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ยโสธร ที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลข ยส ๑๙ - ๓๘๙๕๓ ซึ่งมีพื้นที่เพียง ๙ ไร่ ในขณะที่พื้นที่พิพาททั้งหมดมีขนาดพื้นที่กว่า ๒๔ ไร่ ซึ่งยังไม่พบเอกสารสิทธิเกี่ยวกับที่ดินส่วนที่เหลืออีกประมาณ ๑๕ ไร่เศษ ว่าเป็นของหน่วยงานรัฐ หรือเอกชนรายใด

ผู้เช่าพื้นที่ทำตลาดนัดได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ตนซึ่งมีอาชีพเป็นพ่อค้าเร่ตลาดนัด มีความประสงค์จะมาค้าขายในพื้นที่ตำบลศรีแก้วในลักษณะเป็นตลาดนัดในเย็นวันเสาร์ ในพื้นที่แปลงดังกล่าวซึ่งว่างเปล่าตั้งอยู่ใจกลางชุมชน จึงได้สอบถามไปยังชาวบ้าน และชาวบ้านระบุว่าเป็นที่ดินของ สภ.ต.ศรีแก้ว ให้ไปสอบถามข้อมูลกับอดีตข้าราชการตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งตนจำชื่อและนามสกุลไม่ได้ แต่เป็นคนในพื้นที่ตำบลศรีแก้ว ซึ่งหลังจากนั้นจึงได้ไปขออนุญาตจัดตลาดนัด/ตลาดคลองถม/ตลาดถนนคนเดิน จากท้องที่อำเภอ                เลิงนกทา และขอได้ใบอนุญาตประกอบกิจการตลาดจากเทศบาลตำบลศรีแก้ว และเสียค่าธรรมเนียมจำนวน ๒,๐๐๐ บาท หลังจากนั้น ได้ชำระค่าธรรมเนียมรายเดือนอีกเดือนละ ๒๓๐ บาท แบ่งเป็น ค่าจัดเก็บและขน สิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย เดือนละ ๑๕๐ บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง อีกประมาณเดือนละ ๘๐ บาท โดยเก็บค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่จากผู้ค้ารายย่อย จำนวน ๒๐ - ๕๐ รายต่อนัด รายละ ๒๐ บาท เผื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารตลาดนัด

 สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ยโสธร ได้แจ้งที่ประชุมว่า จากที่ได้ลงพื้นที่หน้างานในการตรวจสอบเบื้องต้น จึงยากที่จะระบุพิกัดหรือขอบเขตได้อย่างชัดเจน เนื่องจากไม่มีหลักเขต รวมทั้งไม่มีหลักฐานในการปักหลักเขต การรังวัดสอบเขต แต่มีเพียงเอกสารการขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุคุมสิ่งของหลวงประเภทสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น และมีขอบเขตที่ดิน แค่เพียงจากการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ (One Map) เท่านั้น รวมทั้ง ประเด็นที่ราชพัสดุแปลงหมายเลข ยส ๑๙ – ๓๘๙๕๓ ซึ่งระบุว่ามีขนาดพื้นที่ ๙ ไร่ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าขอบเขตที่ดินพาดผ่านหรือวางตัวในแนวทิศทางใด ซึ่งทำให้การตรวจสอบแนวเขตที่ดินสาธารณะกับ  ที่ราชพัสดุยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบข้อมูลและเอกสารอย่างละเอียดเสียก่อน

ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ยโสธร ได้แจ้งในที่ประชุมว่า จากการตรวจสอบที่ดินของที่ดินแปลงดังกล่าว พบว่า พื้นที่ไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงปอ ดงบังอี่ ตามประกาศพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งไม่ได้อยู่ในเขตราชพัสดุ และพื้นที่อนุรักษ์ป่าชุมชน หรือพื้นที่ใช้ประโยชน์ป่าชุมชนด้วยเช่นกัน แต่เป็นพื้นที่ที่ถูกกันออกมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชนหรือชุมชนใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวในอดีต ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ เป็นต้นมา ดังนั้น หากหน่วยงานหรือเอกชนจะใช้ประโยชน์ก็สามารถกระทำได้ เพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของเขตป่าสงวนฯ หรือป่าไม้ประเภทใด ๆ

ซึ่งที่ประชุมได้มีความเห็นร่วมกันให้เทศบาลตำบลศรีแก้ว และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ยโสธร ยื่นเรื่องต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดยโสธร สาขาเลิงนกทา เพื่อตรวจสอบแนวเขตที่ดินสาธารณะกับที่ราชพัสดุดังกล่าว และขอออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) เพื่อให้เกิดความชัดเจน ถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถที่จะบริหารจัดการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะผืนดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมและลดข้อพิพาทในชุมชนต่อไป

ทั้งนี้ ในระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบแนวเขตฯ นั้น เพื่อมิให้เกิดปัญหาการบุกรุกเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ทางผู้ค้าตลาดนัดจะยุติการใช้พื้นที่ดังกล่าว โดยจะดำเนินการรื้อถอนเสาไม้และสายไฟฟ้า และนำแผงไม้ที่ใช้ขายของออกจากพื้นที่ให้หมดเสียก่อน และจะได้แจ้งให้ผู้เช่ารายย่อยได้รับทราบสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น และงดการค้าขายในพื้นที่พิพาทดังกล่าว แต่อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนผู้ค้ารายย่อย นายกเทศมนตรีตำบลศรีแก้ว รวมทั้งกำนันตำบลศรีแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑ บ้านศรีแก้ว ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในพื้นที่ตั้งของตลาดนัดวันเสาร์ดังกล่าว ได้อนุโลมให้ผู้ค้าในตลาดนัดวันเสาร์ประมาณ ๓๐ ราย ย้ายไปทำการค้าขายในตลาดสดของเทศบาลตำบลศรีแก้วเป็นการชั่วคราว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่ดินดังกล่าวประมาณ ๒๐๐ เมตร ซึ่งคาดว่าจะไม่กระทบกับผู้ค้ารายเดิมของตลาดสดของเทศบาลตำบลศรีแก้วที่ค้าขายอยู่เดิมแล้ว เพราะเป็นการเปิดค้าขายเฉพาะกิจเฉพาะในบ่ายวันเสาร์เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้มีการร้องเรียนเพิ่มเติมระหว่างผู้เช่ารายเดิม กับ ผู้เช่ารายใหม่ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

Related