จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 220
ติดตามความคืบหน้า กรณี ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านย่านยาว ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม และโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำรับแรงดันและอาคารประกอบพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 160 KW ตำบลบ้านน้อย อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
สืบเนื่องจากการลงพื้นที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ในโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านย่านยาว ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม และโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำรับแรงดันและอาคารประกอบพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 160 KW ตำบลบ้านน้อย อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร นั้น
วานนี้ (11 พฤษภาคม 2566) สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ได้จัดประชุมการแก้ไขปัญหาทั้งสองโครงการ ได้แก่ 1. โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านย่านยาว ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร และ 2. โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำรับแรงดันและอาคารประกอบพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ
160 KW ตำบลบ้านน้อย อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร โดยนายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร
เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร โครงการชลประทานพิจิตร สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดพิจิตร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิจิตร ธนารักษ์พื้นที่พิจิตร คลังจังหวัดพิจิตร องค์การบริหารส่วนตำบลรังนก อำเภอสามง่าม กลุ่มผู้ใช้น้ำ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้อย อำเภอโพทะเล ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มผู้ใช้น้ำ ชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพิจิตร จังหวัดพิจิตร ร่วมประชุมหารือ
โดยมีมติในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวฯ ดังนี้
โครงการที่ 1. การก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านย่านยาว ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร มีแนวทางแก้ไขดังนี้
โครงการที่ 2. การก่อสร้างท่อส่งน้ำรับแรงดันและอาคารประกอบพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ
160 KW สำหรับงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านคลองตามี ตำบลบ้านน้อย อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร มีแนวทางแก้ไขดังนี้
ทั้งนี้ หลังจากดำเนินการส่งมอบทั้งสองโครงการฯ แล้ว เกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำจะได้รับประโยชน์
ในการใช้พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป