จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 954
ป.ป.ช. ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ นำโดยนายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้แทนหน่วยงานภายในกรมราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าติดตามการดำเนินการตามมาตรการ เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบมาตรการดังกล่าว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 เพื่อมุ่งขับเคลื่อนปัญหายาเสพติดในเรื่อนจำ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 นางลัดดา เดือนสว่าง ผู้อำนวยการสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ โดยมี นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในที่ประชุม เพื่อติดตามการดำเนินการตามมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เสนอและคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 โดยมีประเด็นการประชุมหารือที่สำคัญ ได้แก่ ความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำ สถิติการจับกุม/การลักลอบใช้อุปกรณ์สื่อสารในเรือนจำและทัณฑสถาน และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของกรมราชทัณฑ์
ที่ผ่านมาปัญหาการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถานเป็นปัญหาที่สำคัญ ซึ่งจากข้อเท็จจริงพบว่า มีการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน โดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเรือนจำและทัณฑสถานกระทำการทุจริต โดยรู้เห็นเป็นใจและรับผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ต้องขังหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้นผู้ต้องขังหรือเจ้าหน้าที่ด้วยกัน หรือเกิดความเกรงกลัวผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 รวม 4 กรณี สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้รับอนุญาตด้านโทรคมนาคมที่ต้องดูแลด้านความมั่นคงของรัฐ เมื่อได้รับการร้องขอ ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้รับใบอนุญาตที่ต้องดำเนินการในทุก ๆ ด้าน หากไม่สามารถทำได้อาจจะถูกพิจารณาเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตหรือยกเลิกใบอนุญาต
ทั้งนี้ ในการประชุมหารือดังกล่าว ได้มีการติดตามผลการดำเนินการ ปัญหา อุปสรรค ตลอดจนข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ในการพัฒนาการดำเนินการตามมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน ให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
----------------------------------------------
มาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริต
เกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน
15 ธันวาคม 2563 - คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ “มาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน” ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ
ตุลาคม 2564 – กรมราชทัณฑ์ ประกาศใช้ “แผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 – 2568 (แผน 4 ปี)
1 เมษายน 2565 - กรมราชทัณฑ์ ประกาศ “มาตรการป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตเกี่ยวกับการสลักลอบซื้อขายยาเสพติดภายในเรือนจำและทัณฑสถาน”
28 มิถุนายน 2566 - สำนักงาน ป.ป.ช. ประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ เพื่อติดตามการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว