Contrast
Font
5cb2f18364edbacc23e1d76cb679991f.jpg

ป.ป.ช. เผย นอภ.พญาเม็งราย ถูกยืนโทษคุก 2 ปี 6 เดือน ฐานทุจริต จัดซื้อวัสดุก่อสร้างหมูหลุม

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 768

26/08/2566

          สำนักงาน ป.ป.ช. เผยความคืบหน้าล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนบทลงโทษคดี 'บุญยัง เรือนกูล' อดีตนายอำเภอพญาเม็งราย เชียงราย ทุจริตซื้อวัสดุก่อสร้างหมูหลุม โทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน พร้อมพวก 1 ราย ที่เหลือโดน 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา

          สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ได้ติดตามและเผยแพร่ความคืบหน้าข้อกล่าวหาคดี นายบุญยัง เรือนกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย กับพวก คือ นายสุรชาติ สอาดเอี่ยม, นางวัลลภาภรณ์ เรือนปาง, นายกิตติเชษฐ์ ไชยวรรณ์รตน คดีทุจริตโครงการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างโรงเรือนแบบธรรมชาติ (หมูหลุม) หมู่ที่ 1, 5, 9 และ 13 บ้านสันสลีก ตำบลเม็งราย ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 ประกอบมาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา

          ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2565 ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 โดยมีผลคำพิพากษาดังนี้

  1. นายบุญยัง เรือนกูลจำเลยที่ 1 และ นางวัลลภาภรณ์ เรือนปาง จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 จำคุกจำเลย ที่ 1 และจำเลยที่ 3 มีกำหนดคนละ 5 ปี 
  2. นายสุรชาติ สอาดเอี่ยมจำเลยที่ 2 มีความผิด ตามมาตรา 157 (เดิม) ประกอบ มาตรา 83 จำคุก 3 ปี
  3. นายกิตติเชษฐ์ ไชยวรรณ์รตนจำเลยที่ 4 มีความผิดตามมาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 จำคุก 3 ปี 4 เดือน
  4. จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง

คงจำคุก จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 มี กำหนดคนละ 2 ปี 6 เดือน, จำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน, จำเลยที่ 4 มีกำหนด 1 ปี 8 เดือน 

  1. นับโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดง ที่ อท 79/2563 ของศาลนี้ นับโทษจำเลยที่ 2 ต่อจากโทษ จำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลข แดงที่ อท 78/2563 ของศาลนี้ ส่วนจำเลยที่ 4 เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาให้รอการลงโทษ จึงไม่อาจนับโทษต่อได้ ให้ยกคำขอในส่วนนี้

          ขณะที่ ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 3 ส่วนจำเลยที่ 4 ถึงแก่ความตาย และศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งเกี่ยวกับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 จึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4

          โดยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 บัญญัติว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          นอกจากนี้ มาตรา 151 ยังบัญญัติไว้ด้วยว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

          อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้ในลำดับต่อไป

 

Related