Contrast
Font
7fbbf4ce4e74a458f4f16312c233ee90.jpg

ป.ป.ช. ผนึกกำลังจับกุม นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี เรียกรับสินบน 6 แสน โครงการประปาหมู่บ้าน

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 319

13/11/2566

ป.ป.ช. ผนึกกำลังจับกุม นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี เรียกรับสินบน 6 แสน โครงการประปาหมู่บ้าน

ป.ป.ช. ผนึกกำลังปฏิบัติการ 3 ป. และตำรวจสอบสวนกลาง บุกรวบตัวนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ พร้อมกับพวก 4 คน กรณีเรียกรับเงินหกแสนบาท จากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการก่อสร้างประปา

สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้ นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) พร้อมด้วยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมวางแผนและนำกำลังเจ้าหน้าที่และชุดปฏิบัติการพิเศษ“หนุมาน กองปราบ” บุกตรวจค้น 8 จุดในจังหวัดอุทัยธานี เพื่อจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่เรียกรับเงินสิบบน โดยได้จับกุมตัวนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ กับพวกรวม 4 คน กรณีเรียกรับเงินจำนวน 600,000 บาท จากคู่สัญญาของเทศบาลที่ตนเองกำกับดูแล ในโครงการก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาลขนาดใหญ่

          โดยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมสนธิกำลังเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1. นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จังหวัดอุทัยธานี อายุ 45 ปี 2. นายธนภัสร์ ดุลยาธิการ ปลัดเทศบาลตำบลตลุกดู่ อายุ 47 ปี 3. นายกุลธัช สามัคคี เจ้าหน้าที่กองช่าง เทศบาลตำบลตลุกดู่ อายุ 23 ปี 4. นายมานพ ติดติปานะ อายุ 51 ปี และ 5.นายยิ่งยง คชาชาญ อายุ 22 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลตลุกดู่ ในโครงการก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาลขนาดใหญ่ ของเทศบาลตำบลหาดทนง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี และของเทศบาลตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งปรากฏพยานหลักฐานในชั้นต้นว่าบุคคลตามหมายจับ ทั้ง 4 ราย ได้ร่วมกันเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย จำนวน 600,000 บาท และจากการสืบสวนพบว่าบุคคล ทั้ง 4 ราย มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้เสียหายจริง

          สืบเนื่องจากผู้เสียหายซึ่งประกอบกิจการรับเหมาทำบ่อน้ำประปารายหนึ่ง ได้ทำเรื่องร้องเรียนว่า ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดอุทัยธานีได้จัดทำโครงการก่อสร้างระบบท่อน้ำประปาในพื้นที่ ตำบลตลุกดู่ และตำบลหาดทะนง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ยื่นเสนอราคาผ่านระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e–bidding ซึ่งผู้เสียหายทำการยื่นเสนอราคาในโครงการของทั้งสองเทศบาล ซึ่งภายหลังจากที่ได้ยื่นสิทธิ์เข้าร่วมประกวดราคาได้ไม่นาน ได้มีบุคคลรายหนึ่งโทรศัพท์มาข่มขู่ให้ถอนตัว โดยอ้างว่ามีผู้ใหญ่อยากได้โครงการนี้ไปทำ พร้อมเสนอเงินหลายหมื่นบาทเป็นค่าชดเชยหรือค่าเสียเวลาให้ แต่ทางผู้เสียหายได้ตอบปฏิเสธกลับไป พร้อมกับยื่นประมูลตามเดิม จนกระทั่งชนะการประกวดราคาได้รับงานทั้ง 2 โครงการ

          แต่หลังจากชนะการประกวดราคาแล้ว ผู้เสียหายในฐานะคู่สัญญากับเทศบาลทั้งสองแห่งกลับไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากมีกลุ่มอิทธิพลสั่งห้ามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง และผู้จำหน่ายปูนซีเมนต์ทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ขายวัสดุก่อสร้างให้กับผู้เสียหาย ทำให้เกิดปัญหาขาดวัสดุสำหรับการก่อสร้าง และไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้

          ต่อมาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ ผู้ต้องหารายที่ 1 ได้เรียกผู้ร้องเรียนมาพบจำนวน 3 ครั้ง ก่อนยื่นข้อเสนอให้ผู้ร้องเรียน ยอมจ่ายเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะสามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการทั้ง 2 แห่ง ได้อย่างเป็นปกติ ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองขอลดเงินสินบนลงเหลือ 6 แสนบาท พร้อมกับนัดหมายส่งมอบเงินกันในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ที่บริเวณด้านหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาอำเภอเมือง และเป็นที่มาของการวางแผนการจับกุมดังกล่าว

          โดยจากการสืบสวนข้อมูลเบื้องต้น พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้แบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า นายวีระชาติ กับพวก ได้สั่งการให้ นายมานพ เป็นผู้เข้าไปรับเงินจากผู้เสียหายที่ ธ.ก.ส. สาขาเมืองอุทัยธานี จากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ บก.ปปป. ชุดปฏิบัติการพิเศษ (หนุมาน) กองบังคับการปราบปราม และสำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ร่วมกันเข้าจับกุม นายมานพ พร้อมเงินสดของกลาง จำนวน 600,000 บาท และนำมาซึ่งการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 รายที่เหลือ พร้อมตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลการสืบสวน

          ทั้งนี้ จากการสอบสวนคำให้การจากผู้ต้องหาเบื้องต้น ยังให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด

Related