จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 2965
ป.ป.ช. กำหนดทิศทางการต่อต้านการทุจริต ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
สำนักงาน ป.ป.ช. สานต่อการขับเคลื่อนงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อเป้าหมายลดคดีทุจริตในภาพรวม ตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชน ควบคู่ไปกับพัฒนาเครื่องมือและรูปแบบการประเมิน ITA ในหน่วยงานรัฐ ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มุ่งเน้นให้ สำนักงาน ป.ป.ช. เดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ด้วยความซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ดั่งค่านิยมหลักขององค์กรที่ให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกคนยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ซึ่งในการดำเนินงานจะต้องมุ่งเน้นให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยทุกภารกิจจะต้องขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและลดคดีทุจริตในภาพรวม โดยเฉพาะด้านการขับเคลื่อนการดำเนินงานในทุกมิติให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งด้านการป้องกัน ป้องปราม และปราบปรามการทุจริต ให้สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชนและสังคมได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานการดำเนินงานและคำนึงถึงการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ โดยเป้าหมายการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ทุกภารกิจมีการหารือและเตรียมความพร้อม ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างจริงจัง ซึ่งจะต้องมีการจัดทำแผนปฏิบัติการและกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ ซึ่งการบริหารจัดการภาระงานในทุกมิติจะต้องให้ความสำคัญกับฐานข้อมูลที่ถูกต้องและโปร่งใส
ปัจจุบัน สำนักงาน ป.ป.ช. มีการจัดตั้งกลไกการกำกับติดตามการดำเนินงานที่ชัดเจนและต่อเนื่องในทุกภารกิจ อย่างกรณีการกำกับติดตามผ่าน ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ของ สำนักงาน ป.ป.ช. (NACC Operation Command Center) ที่มีการประชุมเพื่อกำกับติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในทุกสัปดาห์ ทำให้สามารถบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคณะอนุกรรมการของทุกภารกิจที่มีการกำกับติดตามการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงสามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานได้ทันต่อสถานการณ์
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของ “ทิศทางการทำงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567” นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย “ป้องนำปราบ” โดยผลักดันการดำเนินงานป้องกันการทุจริตในทุกมิติตามมาตรา 32 มาตรา 33 และมาตรา 35 ตลอดจนหมวด 6 มาตรา 126 ถึงมาตรา 129 ในการป้องกันการขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมอย่างจริงจังรวมถึงการขับเคลื่อนศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (Corruption Deterrence Center: CDC) เพื่อเฝ้าระวัง ระงับยับยั้ง ป้องกันและป้องปราม เพื่อลดการทุจริตให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ยังคงให้ความสำคัญกับการผลักดันแผนงานและนโยบาย “การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) กับหน่วยงานราชการ” โดยเฉพาะในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จะต้องพัฒนาเครื่องมือและรูปแบบที่นำมาใช้สำหรับการดำเนินการประเมิน ITA ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะต้องพัฒนาความร่วมมือในการประเมิน ITA กับหน่วยงานระดับต่ำกว่ากรม อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการประเมิน ITA สถานีตำรวจนครบาล กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในการประเมิน ITA ระดับอำเภอ และการประสานความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการประเมิน ITA ของสำนักงานเขต ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ช. จะเป็นองค์กรศูนย์กลางในการประสานงาน การรวบรวมเก็บข้อมูล สถิติ และผลจากการดำเนินการประเมิน ITA กับองค์กรของรัฐทุกภาคส่วน เพื่อเป็นการกระตุ้นและยกระดับจิตสำนึกของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานนั้น ๆ ในการไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลอย่างเป็นรูปธรรมและมีความต่อเนื่อง อันจะส่งผลโดยตรงต่อการยกระดับ “ดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI)” ของประเทศให้สูงขึ้นต่อไปในอนาคต