Contrast
Font
29ef28def6824c686bac61486bee6620.jpg

สำนักงาน ป.ป.ช. ขับเคลื่อนและบูรณาการความร่วมมือทางศาสนา เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 1867

06/03/2567

ปัญหาการทุจริตในสังคมไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน มีหลากหลายรูปแบบและมีความซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งสังคมไทยมักยกย่องคนรวย คนมีอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงความรวยหรืออำนาจเหล่านั้น ได้มาด้วยวิธีการใด ถูกต้องตามหลักศีลธรรมและมนุษยธรรมหรือไม่ หรือแม้กระทั่งบางครั้ง เมื่อไม่ได้รับผลประโยชน์ตามที่ต้องการ ก็อาจใช้วิธีคดโกงหรือเอาเปรียบทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ตามที่ต้องการ หรือเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามที่มุ่งหวัง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นๆ และการกระทำความผิดเช่นนี้ จึงเป็นบ่อเกิดของปัญหาการทุจริตในสังคมไทย และหากไม่ได้รับการแก้ปัญหา ย่อมก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศชาติอย่างยิ่ง

สำนักงาน ป.ป.ช. ในฐานะมีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง จากภารกิจดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน ประชาชน กลุ่มบุคคล หน่วยงานต่างๆ และสื่อมวลชน มีความตื่นตัวถึงผลกระทบที่เกิดจาการทุจริต และเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตกับสำนักงาน ป.ป.ช. ในมิติต่างๆ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมิติของการสื่อสาร
การรณรงค์ต่อต้านการทุจริตของทุกภาคส่วนต่างๆ ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานสื่อในรูปแบบต่างๆ เช่น รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ สารคดี สกู๊ปข่าว ฯลฯ โดยสอดแทรกเนื้อหาในการปลุกจิตสำนึกให้เกิดค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริต รู้จักแยกแยะผลประโยชน์ส่วนรวมกับส่วนตน มีความละอาย ไม่ให้ไม่รับสินบน การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็งสื่อให้เห็นบทลงโทษกับผู้กระทำการทุจริต การรณรงค์ให้สังคมไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉยต่อการทุจริตทุกรูปแบบ และแนวทางร่วมต้านทุจริตอย่างจริงจัง พร้อมทั้งนำสื่อดังกล่าวไปเผยแพร่สู่สาธารณอย่างกว้างขวาง ย่อมทำให้เกิดพลังความเปลี่ยนแปลงในการสร้างสังคมไทยที่โปร่งใส และเป็นการบูรณาการพลังทุกภาคส่วนในการร่วมกันต่อต้านการทุจริตได้อีกทางหนึ่ง

จากหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการจัดทำจากหนังสือ “หลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนากับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti – Corruption Education) ที่เกิดจากความร่วมมือของมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นการสื่อสารอีกหนึ่งรูปแบบที่สามารถนำไปเผยแพร่ในกลุ่มของพระภิกษุสามเณรและกลุ่มประชาชนทั่วไป จากกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวนี้ สามารถนำหลักคำสอนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตมาใช้ในการเทศนาธรรมสอนประชาชนทั่วไป ให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม และคอยช่วยเหลือกันของคนในชุมชน เพราะหน้าที่หลักของพระภิกษุและสามเณร คือ สอนในประชาชนเป็นคนดีมีศีลธรรม ดังนั้น จึงสามารถเทศนาให้ประชาชนรักษาศีล 5 รู้จักรักษาประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน และรู้จักละอายชั่วเกรงกลัวบาป พระภิกษุและสามเณรสามารถนำหลักธรรมดังกล่าว ไปเผยแผ่และบูรณาการเชื่อมโยงเข้ากับการเทศน์ได้ และหากกระทำเช่นนี้ทั่วประเทศ ก็จะเกิดสังคมแห่งการตระหนักรู้ เป็นสังคมแห่งการมีสติ ตื่นรู้ และมีความคิดเท่าทันปัญหาการทุจริตที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตต่อไป

          หลักธรรมสำคัญที่อธิบายหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา คือ สัมมัปปทาน 4 ประกอบด้วย

1) สังวรปธาน (สัง-วอ-ระ-ปะ-ธาน) คือ เพียรระวังยับยั้งบาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดมิให้เกิดขึ้น เพื่ออธิบายเนื้อหาการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ส่วนรวม

2) ปหานปธาน (ปะ-หา-นะ-ปะ-ธาน) คือ เพียรละบาปหรือกำจัดอกุศลธรรม ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่ออธิบายเนื้อหาความอายและความไม่ทนต่อการทุจริต

3) ภาวนาปธาน (ภา-วะ-นา-ปะ-ธาน) คือ เพียรทำกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดมีขึ้นมา เพื่ออธิบายเนื้อหา STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต

4) อนุรักขนาปธาน (อะ-นุ-รัก-ขะ-นา-ปะ-ธาน) คือ เพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ให้ตั้งมั่นและให้เจริญยิ่งขึ้นไปจนไพบูลย์ เพื่ออธิบายเนื้อหาพลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคม

          จากข้อมูลเบื้องต้นที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ร่วมกับมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นั้น ปัจจุบันได้มีการผลักดันและติดตามการขับเคลื่อนหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนากับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา(Anti-Corruption Education) ซึ่งการขับเคลื่อนและบูรณาการความร่วมมือทางศาสนาในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยประยุกต์หลักธรรมคำสอนกับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) ตามหลักการ “บวร” ประชาชน (บ้าน) ศาสนา (วัด) และหน่วยงานของรัฐ (โรงเรียน หรือราชการ) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และการมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยให้พระสังฆาธิการทุกระดับ และวัดทั่วประเทศนำคัมภีร์เทศน์ไปเผยแพร่ และใช้ในการแสดงพระธรรมเทศนาแก่ประชาชนในระดับพื้นที่

          นอกเหนือจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. และกรมการปกครอง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำหลักคำสอนในพระพุทธศาสนากับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา จึงได้มีแนวทางในการบันทึกรายการ ป.ป.ช. สื่อสาร ภายใต้หัวข้อ “การเผยแผ่หลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนากับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา” โดยได้ร่วมมือผลิตรายการดังกล่าว
เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กรมการปกครอง (DOPA Channel)

          สำนักงาน ป.ป.ช. คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พระสงฆ์ ในบวรพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณจะร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันการทุจริต ให้แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนากับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และชุดคัมภีร์เทศน์ ไปปลูกฝังจิตสำนึก การตื่นรู้เท่าทันต่อสถานการณ์การทุจริต เกิดความอายและไม่กระทำการทุจริต รวมทั้งต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ แก่ประชาชนและทุกกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการแก้ปัญหาการทุจริตในประเทศให้มีจำนวนลดลงในที่สุด

Related