จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 56
ผู้ตรวจราชการฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ในเขตพื้นที่ภาค 1
นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ตรวจราชการ สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (รอบที่ 2) ในเขตพื้นที่ภาค 1 รวมทั้งหมด จำนวน 10 แห่ง เพื่อติดตามความก้าวหน้าของผลการดำเนินงานทุกภารกิจตามแผนปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 การดำเนินการตามนโยบายที่เกี่ยวข้องในรอบที่ผ่านมาของทุกภารกิจ พร้อมทั้งรับทราบปัญหาอุปสรรค ให้คำแนะนำ และข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน โดยลงพื้นที่ ดังนี้
สำหรับผลการปฏิบัติราชการของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด รวมทั้งหมด จำนวน 4 แห่ง สามารถสรุปได้ดังนี้
ด้านปราบปรามการทุจริต สปภ. และ สปจ. รวมทั้งหมด 10 แห่ง พบว่า พนักงานไต่สวน ได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ให้เป็นไปตามกรอบของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ พนักงานไต่สวนได้วางแผนการทำงาน จัดลำดับความสำคัญของและการดำเนินงานให้เป็นไปตามความเหมาะสม เพื่อให้ขั้นตอนในการดำเนินงานต่าง ๆ เป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และยังได้เร่งรัดงานตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานในเรื่องนั้น ๆ แล้วเสร็จ และลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมทั้งการสอบพยานบุคคลให้ละเอียดรัดกุม
ด้านสืบสวนคดีทุจริต สปภ. และ สปจ. รวมทั้งหมด 10 แห่ง พบว่า นักสืบสวนคดีทุจริต ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบ และได้มีการบูรณาการร่วมกับภารกิจงานปราบปรามการทุจริต งานตรวจสอบทรัพย์สิน และงานป้องกันการทุจริต พร้อมทั้งศึกษาหาความรู้ ทั้งกฎหมาย ระเบียบ แนวทางการปฏิบัติงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในภารกิจงานฝึกฝน วิธีการเสาะแสวงหาข้อมูลที่จะทำให้แหล่งข่าวเปิดเผยความจริง รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจหลักทั้งด้านปราบปรามการทุจริต ด้านตรวจสอบทรัพย์สิน และด้านป้องกันการทุจริต เพื่อให้สามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านตรวจสอบทรัพย์สิน สปภ. และ สปจ. รวมทั้งหมด 10 แห่ง พบว่า พนักงานตรวจสอบทรัพย์สินได้ดำเนินการตรวจสอบบัญชีในประเภทต่าง ๆ ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐและการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการยื่นบัญชี พ.ศ. 2561 โดยดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการฯ พร้อมกับวางแผนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบบัญชีฯ ให้ดียิ่งขึ้น
ด้านป้องกันการทุจริต สปภ. และ สปจ. รวมทั้งหมด 10 แห่ง พบว่า ได้ดำเนินการตามนโยบาย “ป้องนำปราบ” เฝ้าระวังการทุจริตของหน่วยงานราชการภายในเขตพื้นที่ภาค และจังหวัด เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดการทุจริต จัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยการลงพื้นที่เฝ้าระวัง ติดตาม และสังเกตการณ์การดำเนินงานตามข้อมูลจาก CDC หรือได้รับแจ้งเบาะแสข้อมูลในพื้นที่ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการฯ ได้ร่วมกับ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมลงพื้นที่และติดตามการดำเนินในการโครงการต่าง ๆ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องปรามการทุจริตในพื้นที่ ดังนี้
- สปจ.สระบุรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการขุดดินถมดิน ในเขตพื้นที่ตำบลผึ้งรวง และตำบลบ้านแก้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
- สปจ.ลพบุรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการก่อสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดลพบุรี (หลังใหม่) ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
- สปจ.สิงห์บุรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการซ่อมแซมเขื่อนป้องกันตลิ่งพระงาม ตำบลพระงาม อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จากการลงพื้นที่พบว่า เขื่อนป้องกันตลิ่งดังกล่าวได้ก่อสร้างและใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ปัจจุบันมีการชำรุดเสียหาย เนื่องมาจากการทรุดตัวของกำแพงกั้นน้ำและถนน ทำให้มีจุดที่น้ำรั่วซึมในฤดูน้ำหลากที่มีระดับน้ำสูง ส่งผลให้ไม่สามารถป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่และเป็นอันตรายต่อประชาชนในพื้นที่ โดยโครงการอยู่ระหว่างดำเนินงาน เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ให้ข้อเสนอแนะกับหน่วยงานให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาในสัญญา ตลอดจนดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และแนวทางของทางราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด มีความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทุจริตและส่งผลเสียหายต่อประโยชน์ของราชการ
- สปจ.ชัยนาท ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการติดตามความคืบหน้ากรณีปรับปรุงซ่อมแซมสวนน้ำอวกาศ สวนนกชัยนาท ตำบลเขาท่าพระ อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เนื่องจากสปจ.ชัยนาท ได้รับแจ้งเบาะแสเฝ้าระวังจากภาคประชาชน กรณีการปรับปรุงและซ่อมแซมสวนน้ำอวกาศ สวนนกชัยนาทมีความล่าช้า รวมระยะเวลา 6 ปี (พ.ศ. 2560 ถึง พ.ศ. 2566) จึงได้ร่วมการตรวจกับเครือข่าย STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ติดตามรับทราบปัญหาและร่วมกันหาแนวทางในการป้องกันการคิดทำทิ้งของโครงการก่อสร้างของหน่วยงานรัฐ โดย อบจ.ชัยนาทได้กำหนดแผนและจัดหางบประมาณในการปรับปรุง และเริ่มทดลองเปิดให้ประชาชนเข้าใช้บริการเมื่อเดือนมกราคม 2568
- สปจ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 10 เป็นโครงการขุดคลองระบายน้ำหลาก มีความยาว 22.50 กม. ระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมก่อสร้างถนนลาดยางบนคันคลอง มีการสร้างสะพานรถยนต์ข้ามคลอง จำนวน 11 แห่ง แบ่งออกเป็น 7 สัญญา ตามระยะทางที่ก่อสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณก่อนเข้าตัวเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากเดิมมีอัตราการไหล 1,730 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 2,930 ลบ.ม.ต่อวินาที เนื่องจากโครงการนี้มีงบประมาณจำนวนมากและยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ จึงต้องมีการติดตามการใช้งบประมาณเป็นระยะ ตามนโยบายป้องนำปราบเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตหรือประพฤติมิชอบอย่างเท่าทัน โดยจะช่วยให้ราชการไม่เกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน ลดปัญหาการร้องเรียนการทุจริต และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต และทำให้คดีการทุจริตลดลง นำไปสู่การป้องกันการสูญเสียงบประมาณแผ่นดิน และผลประโยชน์สาธารณะของประเทศชาติต่อไป
- สปจ.ปทุมธานี ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมวางท่อระบายน้ำ บนถนนไอยรา 2 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ระยะทาง 2.17 กม. ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ถูกตั้งข้อสังเกตหลังมีเบาะแสจากเพจ “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” ว่าถนนที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม 2567 กลับชำรุดแตกร้าวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณขึ้น-ลงสะพานที่รถบรรทุกแล่นผ่านเป็นประจำ เบื้องต้น เทศบาลเมืองท่าโขลง ชี้แจงว่า ถนนเดิมใช้งานมานานกว่า 10 ปี และเกิดการชำรุดตามอายุการใช้งาน จึงจำเป็นต้องสร้างใหม่และวางท่อระบายน้ำเพิ่มเติม โดยปัจจุบันยังอยู่ในช่วงรับประกันสัญญา ซึ่งได้แจ้งให้ผู้รับจ้างดำเนินการซ่อมแซมถนนที่เกิดการชำรุดเสียหายแล้วบางส่วน และบางส่วนกำลังอยู่ระหว่างประสานงานให้ผู้รับจ้างซ่อมแซมเพิ่มเติม ทั้งนี้ ทุกฝ่ายได้ร่วมกันเสนอแนวทางป้องกันในอนาคต คือ การออกแบบถนนให้เหมาะสมกับการรองรับรถบรรทุกหนัก โดยใช้คอนกรีตที่มีความแข็งแรงสูงในจุดที่มีการใช้งานหนัก ในการนี้ สปจ.ปทุมธานี ได้ให้คำแนะนำให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของราชการ และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณา หากพบการดำเนินงานไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
- สปจ.อ่างทอง ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ สายทางเลี่ยงเมืองอ่างทอง ตอน 4 จังหวัดอ่างทอง 1.800 กม.
- สปจ.สมุทรปราการ ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการก่อสร้างถนนเฉลิมพระเกียรติ ก่อสร้างซุ้มประตูทางเข้า และปรับปรุงภูมิทัศน์ พร้อมติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่างระบบพลังงานแสงอาทิตย์ หมู่ที่ 2, 3 ตำบลหนองปรือ (ระยะที่ 1)
- สปจ.นนทบุรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการก่อสร้างศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จเมืองนนทบุรี
- สปภ. 1 ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมท่อระบายน้ำ ถนนไอยรา 2 หมู่ที่ 7, 8 และ 9 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ในการนี้ ผู้ตรวจราชการฯ ได้รับฟังปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานจากเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติโดยตรง และได้ให้ข้อเสนอแนะและแนวทางการปฏิบัติงานของแต่ละภารกิจให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนโยบายของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในด้านการแก้ไขปัญหาการทุจริต ซึ่งจะทำสามารถแก้ไขปัญหาการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ตลอดจน ช่วยประสาน แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในทันที พร้อมทั้งให้กำลังใจในการปฏิบัติงานราชการแก่บุคลากรทุกฝ่าย ตลอดจนเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่พัฒนาตนเอง ศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงของข้อกฎหมาย และให้นำเทคโนโลยีมาช่วยในการสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานอีกด้วย