จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 37
“AI พลิกเกมต้านโกง” ไทยเดินหน้าสร้างระบบโปร่งใส ตั้งแต่ต้นทาง ผ่านเวที “CORRUPTION DISRUPTORS”
เมื่อ AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือพลังพลิกโฉมการป้องกันทุจริต
กรุงเทพฯ – วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับบริษัท เดอะสแตนดาร์ด จำกัด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุน ป.ป.ช. จัดเวทีเสวนาวิชาการ “CORRUPTION DISRUPTORS: Empowering AI to Fight Corruption” ภายใต้แนวคิด “เมื่อ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือพลังต้านคอร์รัปชัน” ณ Grand Hall, True Digital Park ถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร
ภายในงาน ได้เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิชาการ ข้าราชการ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และภาคประชาสังคม ทั้งจากในและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการออกแบบระบบให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ตั้งแต่ต้นทาง หรือที่เรียกว่า “Integrity by Design” พร้อมผลักดันให้การเปิดเผยข้อมูล (Open Data) และธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) กลายเป็นพื้นฐานสำคัญของการต่อต้านการทุจริตในยุคดิจิทัล
ผู้บริหาร ป.ป.ช. เข้าร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดระดับนานาชาติ
ในงานนี้ ผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. เข้าร่วม นำโดย นายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งให้การต้อนรับ Ms. Elodie Beth Seo ผู้จัดการอาวุโส แผนกต่อต้านการทุจริตขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และหารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่าง OECD กับสำนักงาน ป.ป.ช. ในการพัฒนาเสริมสร้างความโปร่งใส รวมถึงให้การต้อนรับ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ประธานสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ซึ่งร่วมปาฐกถาในหัวข้อ “Integrity by Design”
นอกจากนี้ ยังมีผู้บริหารระดับสูงของ ป.ป.ช. เข้าร่วมงาน ได้แก่ นายมงคล วุฒินิมิต ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ นายวณิชย์ ศุภวณิชย์สกุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
เรียนรู้จากตัวอย่างระดับโลกสู่การออกแบบระบบในไทย
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการบรรยายโดย Ms. Elodie Beth Seo จาก OECD ที่ชี้ให้เห็นว่า AI กำลังถูกนำมาใช้ทั้งในการเสริมสร้างธรรมาภิบาล และในทางกลับกันก็อาจถูกใช้เพื่อฟอกเงินหรือซ่อนธุรกรรมผิดกฎหมาย หากไม่มีระบบตรวจสอบที่ดี ตัวอย่างจากหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ บราซิล สหรัฐฯ อินโดนีเซีย และฮ่องกง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการนำ AI มาสนับสนุนการทำงานภาครัฐ หากมีการออกแบบระบบที่ดีและเปิดเผยข้อมูลอย่างมีมาตรฐาน
ในส่วนของประเทศไทย OECD ได้เริ่มกระบวนการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม ACT AI ซึ่งพัฒนาโดยภาคประชาสังคมเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงจากข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างและข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจรัฐ
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญไทยและอาเซียน: AI ต้องเดินคู่กับ Open Data
การเสวนาในช่วงสายได้นำเสนอความเห็นจากหลากหลายมุมมอง ทั้งจาก ดร.มานะ นิมิตรมงคล (องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน), รศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค (ศูนย์ KRAC), คุณพันธ์ศักดิ์ เสตเสถียร (PwC) และ Ms. LAMINI (KPK อินโดนีเซีย) ซึ่งต่างเห็นพ้องว่า AI จะไร้พลังหากขาดข้อมูลที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ทั้งยังเสนอแนวทางสร้างมาตรฐานกลางของข้อมูลภาครัฐ เพื่อให้ระบบสามารถวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Integrity by Design: หัวใจของการป้องกันที่ยั่งยืน
ศ.(พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กล่าวสรุปในช่วงท้ายว่า “การจับคนโกงไม่เพียงพออีกต่อไป เราต้องเริ่มออกแบบระบบไม่ให้โกงได้ตั้งแต่แรก” โดยเสนอให้รัฐบาลไทยพัฒนาโครงสร้างกฎหมาย หน่วยงานที่โปร่งใส และวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อเปลี่ยน “ความกลัวการเปิดเผย” เป็น “พลังแห่งความร่วมมือ” เช่นเดียวกับที่รัฐบาลสหรัฐฯ เคยทำภายใต้หลักการ Open Government
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
งาน CORRUPTION DISRUPTORS ครั้งนี้ไม่เพียงเน้นศักยภาพของ AI แต่ยังตอกย้ำว่า “การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงเริ่มจากวิธีคิด” หากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนสามารถร่วมมือกันวางระบบที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดกว้างต่อข้อมูล — สังคมไทยก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันจากการทุจริตได้ตั้งแต่รากฐาน
“อย่ารอให้ระบบพังแล้วค่อยซ่อม แต่จงสร้างระบบที่โกงไม่ได้ตั้งแต่ต้นทาง” — สารหลักจากเวทีนี้