Contrast
Font
c276ab7c914a50b4bab338eb66b585c3.png

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 1 เรื่อง

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 106

19/11/2568

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 1 เรื่อง

วันนี้ (19 พฤศจิกายน 2568) นายสุรพงษ์  อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 1 เรื่อง ดังนี้  

เรื่องที่ 1 กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายวิเชียร แสงนุภาพ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าซุง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ร่ำรวยผิดปกติ รวมเป็นเงินจำนวน 1,300,000 บาท

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า นายวิเชียร แสงนุภาพ ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าซุง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2556 - 30 มิถุนายน 2558 ในระหว่างดำรงตำแหน่งมีการฝากเงินเข้าบัญชีของคู่สมรส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
สาขาถนนรังสิต - นครนายก (คลอง 2) เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2558 จำนวน 1,300,000 บาท ซึ่งไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาของเงินได้

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้

นายวิเชียร แสงนุภาพ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือ
ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จำนวน 1,300,000 บาท ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอำนาจสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง เพื่อสั่งให้พ้นจากตำแหน่งภายในหกสิบวัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง
และวรรคห้า

หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติ
ตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหา
ได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
การทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 125

                    จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

Related