Contrast
Font
5449147a57799408436ce893eda97621.jpg

ป.ป.ช. เอาจริง ไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐประพฤติมิชอบพ้นผิด

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 6675

18/04/2566

ป.ป.ช. เอาจริง ไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐประพฤติมิชอบพ้นผิด

พร้อมเผยความคืบหน้าคดี นายก อบต.หนองรี ย้ำ “คนผิดต้องไม่รอดพ้นกฎหมาย”

ป.ป.ช. ไม่ปล่อยผ่านเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดประพฤติมิชอบใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ เบียดบังงบประมาณแผ่นดินเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ยกกรณีความคืบหน้าเรื่องกล่าวหา “นายสมชาย ยิ้มใหญ่หลวง” นายก อบต.หนองรี อำเภอบ่อพลอย กาญจนบุรีกับพวก ใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์โครงการเงินกู้สวัสดิการฯ - ทุจริตเบิกค่าอาหารเลี้ยงผู้สูงอายุ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษจำคุก 53 ปี แต่ติดจริง 50 ปี พ่วงพรรคพวกอีก 11 รายโดนด้วย เผย ปลัด อบต. โดนหนักสุด 205 ปี ย้ำ “เจ้าหน้าที่รัฐทำผิดต้องได้รับโทษหนัก ไม่มีทางรอดพ้นกฎหมาย”

         นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผย ความคืบหน้าเรื่องกล่าวหา นายสมชาย ยิ้มใหญ่หลวง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี กับพวกอีก 11 คน เช่น นายชนก ธนะรัตน์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองรี และนางสาวธมลวรรณ หรือทศนพร จันทร์หอม ผู้อำนวยการกองคลัง เป็นต้น ใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์จากโครงการเงินกู้เพื่อเป็นสวัสดิการสำหรับบุคลากรภาครัฐให้ได้รับการคิดดอกเบี้ยตามสัญญากู้เงินในอัตราที่ต่ำกว่าปกติ เข้ามีส่วนได้เสียโดยการจัดหาพัสดุมาขาย และเข้ามาเป็นผู้รับจ้างกับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองรี และทุจริตการเบิกค่าอาหารสำหรับเลี้ยงผู้สูงอายุระหว่าง ปีงบประมาณ 2553 -2555 ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 และ 161 (1) (4) ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2563

          ความคืบหน้าล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษา ให้นายสมชาย ยิ้มใหญ่หลวง และพวกมีความผิดตามกฎหมาย โดยลงโทษ นายสมชาย ยิ้มใหญ่หลวง จำเลยที่ 1 รวมจำคุก 53 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี นายชนก ธนะรัตน์ จำเลยที่ 2 รวมจำคุก 205 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี ลงโทษ นางสาวธมลวรรณ หรือทศนพร จันทร์หอม จำเลยที่ 3 รวมจำคุก 45 ปี ส่วนพรรคพวกอีก 9 คน ซึ่งเป็นจำเลยที่ 4 ถึง 12 ไม่ปรากฏว่าเคยรับโทษจำคุกมาก่อน ศาลจึงเห็นสมควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคม โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29, 30

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด จำเลยที่ไม่ได้รอลงอาญา มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้ ในส่วนของ สำนักงาน ป.ป.ช.จึงขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ข้องเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบ เพราะนอกจากจะเป็นการเสื่อมเสียไปถึงประเทศชาติแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 กรณี “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท” หรือมาตรา 157 กรณี “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. จะเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยอาศัยหน่วยงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ในส่วนภูมิภาคซึ่งมีอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศต่อไป

Related