Contrast
Font
0399ca86e84dcc2c6920d3cce5380d50.jpg

เกร็ดความรู้...สู้ทุจริต‼️ เรื่อง "กรณีศึกษาการทุจริต"

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 709

09/08/2566

"แจ้งข้อกล่าวหาและส่งตัวผู้ต้องหาไม่ครบถ้วน"

นาย ก. ขณะมียศร้อยตำรวจเอกในฐานะพนักงานสอบสวนคดีที่ นาย ว. ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 จำนวน 2 คดี คดีแรกสั่งจ่ายเงิน 500,000 บาท คดีที่สองสั่งจ่ายเงิน 2,000,000 บาท โดยทั้ง 2 คดี มีนาย พ. เป็นผู้เสียหาย เมื่อนาย ก. จับกุมผู้ต้องหาได้ นาย ก. สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี แต่ดำเนินคดีและนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังเฉพาะคดีแรก ซึ่งมีจำนวนเงินในเช็คน้อย โดยไม่ระบุในคำร้องฝากขังให้ศาลทราบว่าผู้ต้องหายังตกเป็นผู้ต้องหาคดีอื่นอีก กับไม่คัดค้านการประกันตัวและไม่ขออายัดตัวผู้ต้องขังต่อผู้บัญชาการเรือนจำ เนื่องจากนาย ก. ได้แถลงต่อศาลขอนำตัวผู้ต้องหาขังที่ สน.หัวหมาก ต่อมาเมื่อสอบสวนเสร็จทั้ง 2 คดี ผู้ถูกกล่าวหากลับส่งสำนวนคดีแรกให้พนักงานอัยการเพียงคดีเดียว โดยไม่แจ้งให้พนักงานอัยการทราบว่านาย ว. ตกเป็นผู้ต้องหาอีกคดีหนึ่ง เป็นเหตุให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องผู้ต้องหาเพียงคดีเดียว ซึ่งผู้ต้องหาได้ยื่นขอประกันตัวและหลบหนีประกันในชั้นศาลไม่สามารถนำตัวมาลงโทษจนถึงปัจจุบัน การกระทำของนาย ก. จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย

มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.

การกระทำของนาย ก. เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสองประกอบพระราชบัญญัติข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2521 มาตรา 45 และพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ พ.ศ. 2477 มาตรา 5 (12) และเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
----------

"แก้ไขรายการสัญชาติ การเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านและจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนให้กับบุคคลต่างด้าว"

นาย ก. ขณะดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตรและนาย ข. ขณะดำรงตำแหน่งนายอำเภอ มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎร์และบัตรประจำตัวประชาชน ได้อาศัยตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวร่วมกับกลุ่มบุคคลที่เป็นราษฎร และบุคคลไม่มีสัญชาติไทย (ต่างด้าว)กระทำการโดยมิชอบด้วยหน้าที่อนุมัติให้แก้ไขรายการสัญชาติ และเพิ่มชื่อให้กับบุคคลไม่มีสัญชาติไทย (ต่างด้าว)ลงในทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14) ให้กับบุคคลสัญชาติไทยและมีบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งการดำเนินการของนาย ก และนาย ข มิได้ปฏิบัติตามแนวทางหรือวิธีการที่ถูกต้อง ประกอบกับมีการใช้เอกสารการตรวจสายพันธุกรรม (DNA) ปลอม มาประกอบคำร้องขอเพิ่มชื่อในกรณีดังกล่าวข้างต้น

มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.

การกระทำของนาย ก. และนาย ข มีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลเป็นความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 50 นอกจากนี้ นาย ก. ซึ่งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ ยังมีมูลความผิดทางอาญามาตรา 162 (1) และ (4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2542 มาตรา 14 วรรคสาม

กรณีผู้ร่วมกระทำผิดกับ นาย ก. และ นาย ข. นั้น มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด
----------

"ช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวให้มีรายชื่อหรือรายการในทะเบียนหรือเอกสารการทะเบียนราษฎรโดยมิชอบ"

นาย ก. ขณะดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทะเบียน 4 ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยนายทะเบียนท้องถิ่น สำนักทะเบียนราษฎร เทศบาลนครนนทบุรี อาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่กระทำการปลอมเอกสารและแก้ไขรายการในทะเบียนบ้านด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวให้มีรายชื่อหรือรายการในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎรจำนวน 17 ราย โดยศูนย์ประมวลผลการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจพบว่ามีผู้ใช้ฐานข้อมูลของศูนย์ประมวลผลการทะเบียน กรมการปกครอง โดยใช้โปรแกรมปรับปรุงรายการบุคคล (ทร.44) เพิ่มชื่อโดยไม่ต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขรายละเอียดรายการบุคคลในทะเบียนบ้านในลักษณะบุคคลรายเดียวแก้ไขเกือบทุกรายการ ซึ่งมิใช่การแก้ไขฐานข้อมูลตามปกติในการปฏิบัติงานทั่วไป การแก้ไขรายการทางทะเบียนดังกล่าวใช้รหัสผ่านของผู้ปฏิบัติงาน 2 ชั้นซึ่งเป็นของบุคคลคนเดียวกัน ทั้งในฐานะข้าราชการประจำงานและในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนท้องถิ่น ด้วยรหัสที่นาย ก. ได้รับอนุมัติให้ใช้

มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.

การกระทำของนาย ก. เป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มาตรา 161 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 91 และเป็นความผิดวินัย

Related