ป.ป.ช. ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อเริ่มกระบวนการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบน (Anti-Bribery Convention) ของ OECD
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 26
ป.ป.ช. ยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อเริ่มกระบวนการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบน (Anti-Bribery Convention) ของ OECD
วันนี้ (8 ธันวาคม 2568) นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้แทนในการยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อเริ่มกระบวนการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธรุกิจระหว่างประเทศ (OECD Anti-Bribery Convention) ต่อนายฟรานติเช็ก รูซิกกา (Mr. František Ružička)
รองเลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD)ณ ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสที่คณะผู้แทน OECD เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในนามของนายมาทีอัส คอร์มันน์ (Mr. Mathias Cormann) เลขาธิการ OECD เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรับมอบบันทึกเบื้องต้น (Initial Memorandum: IM) ของประเทศไทยในการเข้าเป็นสมาชิก OECD โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีสถานะเป็นประเทศผู้สมัครซึ่งอยู่ในกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD (Accession Candidate Country)
ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการดำเนินการในกรอบคณะทำงานว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ (OECD Working Group on Bribery in International Business Transactions) ซึ่งมี OECD Anti-Bribery Convention เป็นตราสารหลักที่ต้องปฏิบัติตาม โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนของ OECD และการเข้าเป็นสมาชิก OECD ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานศาลยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กรมสรรพากร และแนวร่วมต่อต้านคอรัปชั่นของภาคเอกชนไทย (CAC) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดันการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายและแนวปฏิบัติของประเทศไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐาน OECD อันเป็นการยกระดับกฎหมายและสภาพแวดล้อมการลงทุนให้โปร่งใสและแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น นำไปสู่เป้าหมายในการเป็นภาคีอนุสัญญาฯและการเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทยต่อไป
Related
