Contrast
Font
4f254eecdf1217b7d364c5efab88e654.jpg

สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 แถลงผลการดำเนินงานด้านป้องกันการทุจริต ด้านปราบปรามการทุจริต และด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินในเขตพื้นที่ภาค 1 ไตรมาสที่ 1 – 3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 974

30/06/2566

สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 แถลงผลการดำเนินงานด้านป้องกันการทุจริต ด้านปราบปรามการทุจริต และด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ของสำนักงาน ป.ป.ช ในเขตพื้นที่
ภาค 1 ไตรมาสที่ 1 – 3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

วันนี้ (30 มิถุนายน 2566) นางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 พร้อมด้วยผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในเขตพื้นที่ภาค 1 แถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านป้องกันการทุจริต ด้านปราบปรามการทุจริต และด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ของสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดในเขตพื้นที่ภาค 1 ไตรมาส 1 – 3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยนาท สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนนทบุรี สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลพบุรี สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสมุทรปราการ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสิงห์บุรี สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระบุรี และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอ่างทอง โดยมีรายละเอียดของผลการดำเนินงาน ดังนี้

  1. ผลการดำเนินงานด้านป้องกันการทุจริต

โครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG : Together against Corruption – TaC) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1)

ปัญหาสายสื่อสารที่มีการลักลอบพาดสายอย่างผิดกฎหมาย มีการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน และยังไม่มีการรื้อถอนสายที่ชำรุดหรือสายที่ไม่ใช้งานออกจากเสาไฟฟ้าจนทำให้เสาไฟฟ้ารกรุงรัง ห้อยระโยงระยาง และมีน้ำหนักมากส่งผลต่อทัศนียภาพ อาจก่อให้เกิดไฟไหม้ และเป็นอันตรายต่อผู้ที่สัญจรไปมาได้ การที่หน่วยงานผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสายสื่อสาร ปล่อยปละละเลย อาจเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการโทรคมนาคมได้ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 เห็นควรขับเคลื่อนข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกี่ยวข้อง คือ “ข้อเสนอแนะเพื่อดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารและอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว” โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการจัดระเบียบสายสื่อสารฯ ดังนี้                        

                   ปีงบประมาณ 2564 ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการจัดระเบียบสายสื่อสารฯ ในเขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                   ปีงบประมาณ 2565 ขับเคลื่อนในเขตพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยคัดเลือกพื้นที่นำร่อง จำนวน 6 พื้นที่ คือ 1. เทศบาลนครนนทบุรี 2. เทศบาลนครปากเกร็ด 3. เทศบาลเมืองบางบัวทอง 4. เทศบาลเมืองพิมลราช 5. เทศบาลเมืองบางรักพัฒนา 6. เทศบาลตำบลเสาธงหิน

                   ปีงบประมาณ 2566 ได้ขยายผลให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้โครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG : Together against Corruption – TaC)  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันแก้ไขปัญหาและกำหนดแนวทางเฝ้าระวังการทุจริตในระดับพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 3 ครั้ง      

                   สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 ได้ติดตามความก้าวหน้าพื้นที่นำร่อง 6 พื้นที่ ของจังหวัดนนทบุรีที่ได้เสนอเส้นทางที่มีปัญหาสายสื่อสารเพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. พิจารณากำหนดเส้นทางการจัดระเบียบตามแผนการจัดระเบียบสายสื่อสาร พ.ศ. 2566 เนื่องจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการประชุมครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 มีมติเห็นชอบหลักการสนับสนุนการดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารที่ได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน2564 ตามแนวทางที่สำนักงาน กสทช. เสนอ ได้แก่ การจัดระเบียบสายสื่อสารตามแผนการจัดระเบียบสายสื่อสารจะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดระเบียบฯ ดังนี้ 1) ค่ารื้อถอนปรับระดับสายสื่อสารเพื่อติดตั้งคอนสื่อสาร 2) ค่ารื้อถอนสายสื่อสารที่ไม่ใช้งานหลังติดตั้งคอนสื่อสาร 3) ค่าติดตั้งสายใหม่กับคอนสื่อสาร ในส่วนค่าแรงติดตั้งสายกับคอนสื่อสาร 4) ค่าเดินสายใหม่หรือพาดสายใหม่ก่อนติดตั้งกับคอนสื่อสาร 5) ค่าทำลายซากสายสื่อสารรวมค่าขนส่งไปยังบริษัททำลายซาก 6) ค่าขนส่งสายสื่อสารไปยังพื้นที่จัดเก็บสายสื่อสารก่อนการทำลายซาก โดยนายพงศกร แก้วจันทร์เหนือ ผู้อำนวยการสำนักงาน กสทช. เขต 11 แจ้งต่อที่ประชุม เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ว่าได้ส่งเรื่อง 6 พื้นที่นำร่องทั้งหมดเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ กสทช. ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากแผนการจัดระเบียบสายสื่อสาร พ.ศ. 2566

  1. ผลการดำเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต

          2.1 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีมติชี้มูลความผิด นายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ในคดีจัดซื้อกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พร้อมติดตั้ง ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ

          คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 64/2566 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 มีมติชี้มูลความผิด นายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ กับพวก ในโครงการจัดซื้อกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพร้อมติดตั้ง พร้อมอุปกรณ์ควบคุมการทำงานครบชุด ในปี 2557 งบประมาณ 75,000,000 บาท ชี้มูลความผิดอาญาและวินัย

          2.2 กรณีร่ำรวยผิดปกติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

                 2.2.1 นายสมทรง ลีวัฒนะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางกระสั้นอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 138/2565 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 มีมติว่า นายสมทรง  ลีวัฒนะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบางกระสั้น ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติโดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติหรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 29,169,766.40 บาท

                พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรค หนึ่ง แล้ว

               2.2.2 นายพุฒิพงศ์ อยู่ถาวร ขณะดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาหมอ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี

               คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 138/2565 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 มีมติว่า นายพุฒิพงศ์ อยู่ถาวร ขณะดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาหมอ ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 33,445,315 บาท ได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาแล้ว

  1. ผลการดำเนินงานด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน

ผลการดำเนินงานตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของภาค 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 915 บัญชี ประกอบด้วย การตรวจสอบปกติ การตรวจสอบยืนยัน และการตรวจสอบเชิงลึก ดังนี้

- การตรวจสอบปกติ จำนวน 882 บัญชี

- การตรวจสอบยืนยัน จำนวน 32 บัญชี

- การตรวจสอบเชิงลึก จำนวน 1 บัญชี

- กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นในเขตจังหวัดลพบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 4 ราย

- กรณีรับเรื่องไว้พิจารณาดำเนินการไต่สวนเบื้องต้น กรณีร่ำรวยผิดปกติ ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ในเขตจังหวัดปทุมธานี จังหวัดชัยนาท และจังหวัดอ่างทอง กรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 4 ราย

Related