จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 493
ป.ป.ช. ภาค 3 เสริมแกร่ง เจ้าหน้าที่รัฐในสังกัด อบจ.นครราชสีมา และผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครู ลูกจ้าง พนักงานจ้าง บุคลากรทางการศึกษา รวมกว่า 400 คน ให้มีความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมาย และหลักการปฏิบัติงานให้ห่างไกลจากการถูกชี้มูลทุจริต และการป้องกันการถูกดำเนินคดีทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 3 กล่าวในการเป็นวิทยากรบรรยาย ในโครงการอบรมส่งเสริมความรู้ด้านกฎหมายให้แก่บุคลากรในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่า การอบรมในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (อบจ.นครราชสีมา) โดย สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ "หลักการปฏิบัติงานให้ห่างไกลจากการถูกชี้มูลทุจริต และการป้องกันการถูกดำเนินคดีทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ" และหัวข้อ "การส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต" มีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับการอบรม เป็นข้าราชการและบุคลากรในสังกัด อบจ.นครราชสีมา และผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครู ลูกจ้าง พนักงานจ้าง บุคลากรทางการศึกษา ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยแบ่งการอบรมเป็น 2 รุ่น รวมจำนวนกว่า 400 คน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ เสริมสร้างหลักปฏิบัติราชการที่ดีให้แก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงาน ลดข้อบกพร่องในการปฏิบัติงานและป้องกันความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน เป็นหลักการปฏิบัติงานให้ห่างไกลจากทุจริต
สาระความรู้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม ส่วนหนึ่งจะเป็นการตอบโจทย์ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่สนับสนุนให้ประเทศไทย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ อาศัยหลักการปลูกและปลุกจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดี มีวัฒนธรรมสุจริต ตลอดจนส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความใสสะอาด ปราศจากพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต พร้อมทั้งปฏิบัติตนตามแนวทางหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) รวมถึงเข้าใจถึงพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงเข้าข่ายการกระทำผิด ซึ่งเนื้อหาหลักคือการให้เจ้าหน้าที่รัฐยึดมั่นในการปฏิบัติภารกิจด้วยความโปร่งใส ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้อง เพื่อป้องกันความผิดเกี่ยวกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์ รวมทั้งไม่ละเลยการติดตามตรวจสอบการทำงานของนิติบุคคลในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อไม่ให้เข้าข่ายความผิดในมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมกำชับในเรื่องของการรับของขวัญ ของกำนัล เพราะอาจเข้าข่ายรับสินบน ผิดตามมาตรา 143, 149 และ 150 โดยความผิดดังกล่าวเมื่อถูกชี้มูล และดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วจะมีอัตราโทษสูงทั้งทางวินัยและอาญา โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่รัฐให้วางตนอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อห่างไกลความเสี่ยงคดีทุจริตที่เกิดความเสื่อมเสียทั้งกับตนเองและประเทศชาติ