Contrast
Font
94db41e1de8cf7616e842ee8e7abcbf6.jpg

ป.ป.ช. ผลักดัน 8 หลักการป้องกันการให้สินบนต่อเนื่อง เน้นย้ำนิติบุคคลออกมาตรการควบคุมให้เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 4199

21/06/2566

สำนักงาน ป.ป.ช. ผลักดัน 8 หลักการป้องกันการให้สินบนอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเอกชนและนิติบุคคลได้มีมาตรการกำกับดูภายในองค์กรที่เหมาะสม เพื่อสกัดกั้นปัญหาการให้สินบนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ

          นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันภาคธุรกิจการค้ามีขยายตัวและแข่งขันทางการค้ากันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ทำให้มีการจ่ายสินบนเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ และจากที่ผ่านมาพบว่าทุก ๆ ปีจากสินบนที่จ่ายออกไปทั่วโลกกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงสถิติของคดีสินบนของกลุ่มประเทศ OECD ซึ่งเป็นองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่มีการรวมกลุ่มกันของประเทศต่าง ๆ กว่า 38 ประเทศพบว่า สินบนส่วนใหญ่มาจากการจ่ายเพื่อให้ได้เป็นคู่สัญญาในการจัดซื้อจัดจ้างกับภาครัฐ นอกนั้นเป็นปัญหาสินบนที่เกิดจากการให้ผ่านพิธีการศุลกากร การปฏิบัติเป็นพิเศษอื่น ๆ การปฏิบัติเป็นพิเศษทางภาษี การให้ได้รับใบอนุญาตหรือการอนุญาต สัมปทาน และการเข้าถึงข้อมูลความลับ เป็นต้น ซึ่งปัญหาสินบนเหล่านี้ก่อให้เกิดการแข่งขันทางการค้าและธุรกิจที่ไม่เท่าเทียม เป็นธรรม ปัญหาสินบนจึงเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องมีการส่งเสริมให้มีมาตรการป้องกันแก้ไขที่ชัดเจน ดังนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้พัฒนากฎหมาย และมาตรการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเอกชนและนิติบุคคลได้มีมาตรการกำกับดูภายในองค์กร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความโปร่งใส สกัดกั้นปัญหาการให้สินบนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยกำหนด 8 หลักการในการเสริมสร้างธุรกิจให้โปร่งใสไร้สินบน ซึ่งถือเป็นหลักการพื้นฐานสำหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภายใต้มาตรา 176 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เพื่อการต่อต้านการให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ โดยมีหลักการป้องกันการให้สินบน ดังนี้

        1. การป้องกันการให้สินบนต้องเป็นนโยบายสำคัญจากระดับบริหารสูงสุด

        2. นิติบุคคลต้องมีการประเมินความเสี่ยงในการให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ

        3. มาตรการเกี่ยวกับกรณีมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นการให้สินบนต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน

        4. นิติบุคคลต้องนำมาตรการป้องกันการให้สินบนไปปรับใช้กับผู้มีความเกี่ยวข้องทางธุรกิจกับนิติบุคคล

        5. นิติบุคคลต้องมีระบบบัญชีที่ดี

        6. นิติบุคคลต้องมีแนวทางบริหารทรัพยากรบุคคลที่สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการให้สินบน

        7. นิติบุคคลต้องมีมาตรการสนับสนุนให้มีการรายงานการกระทำความผิดหรือกรณีมีเหตุน่าสงสัย

        8. นิติบุคคลต้องทบทวนตรวจสอบและประเมินผลมาตรการป้องกันการให้สินบนเป็นระยะ

          ทั้งนี้ ตามมาตรา 176 ของ พรบ.ป.ป.ช. ไม่ได้กำหนดให้นิติบุคคลต้องรับผิดเด็ดขาดทุกกรณี โดยหากนิติบุคคลมีมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการให้สินบน นิติบุคคลจะไม่มีความผิด ตามมาตรานี้ โดยหลักการทั้ง 8 ประการจะอยู่ในคู่มือแนวกำหนดมาตรการป้องกันการให้สินบน ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับนิติบุคคลทุกประเภทตามความเหมาะสม ทั้งนี้ กฎหมายยังกำหนดโทษสำหรับ “ผู้ให้สินบน” คือ จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษสำหรับ “นิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้สินบน” คือ ปรับตั้งแต่หนึ่งเท่าแต่ไม่เกินสองเท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประโยชน์ที่ได้รับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากเจตนารมณ์ของกฎหมาย หากองค์กรธุรกิจได้มีความพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันการให้สินบนแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ให้สินบน กฎหมายก็มีข้อยกเว้นให้ไม่ต้องรับโทษด้วยเช่นกัน

Ref .

https://www.youtube.com/watch?v=nhDdp3y3254&t=3s

https://www.nacc.go.th/abas/upload/files/2019/08/54bf1c529d61f66877d8331fcfbbe605.pdf

Related